วิธีเดินทางไปบางกะเจ้า, ปอดสีเขียวของกรุงเทพ

ฉันอาศัยอยู่กรุงเทพมาได้ 1 ปีกับ 6 เดือนแล้วและฉันรักเมืองนี้ แต่เมื่อไหร่ที่ได้เดินทางไปต่างจังหวัด ฉันเกลียดที่ต้องกลับเข้ามาอยู่ในป่าคอนกรีตที่ไม่มีทางหนีนี้อีกครั้ง

แน่นอนว่าฉันสามารถไปสวนลุมพินีหรือสวนจตุจักรได้เป็นบางครั้งคราว และมันก็พอที่จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้บ้าง แต่บางครั้งฉันก็คิดถึงที่โล่งๆที่ฉันสามารถเดินได้เป็นกิโลๆและปกคลุมด้วยพื้นที่สีเขียวหรือสามารถปั่นจักรยานไปรอบๆได้สะดวก

หนึ่งในหลายที่ที่ฉันชอบคือเมืองโบราณสมุทรปราการ อยู่ติดกับกรุงเทพ แต่นั่นหมายถึงคุณต้องใช้เงินพอสมควรสำหรับไปที่นั่น ฉันบังเอิญไปอ่านเจอโอเอซิสอีกแห่งหนึ่ง ที่เรียกว่าบางกะเจ้า

ฉันเห็นหลายคนปั่นจักรยานอยู่ในทุ่งหญ้าสีเขียวใกล้กับสวนกล้วย ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าที่นี่อยู่ใกล้ๆกับกรุงเทพนี่เอง ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจเดินทางไป และนี่คือสื่งที่ฉันค้นพบที่บางกะเจ้า

ไม่เพียงแต่คนรักธรรมชาติเท่านั้นที่ชอบแวะเวียนไปที่บางกะเจ้า แต่บางกะเจ้ายังเป็นแหล่งที่ช่วยลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ของกรุงเทพที่เกิดจากการเจริญเติบโตที่ค่อนข้างสูงของตัวเมือง

ถ้าคุณอยู่ในกรุงเทพและกำลังมองหาเวลาเพื่อกลับคืนสู่ธรรมชาติแล้วละก็ คุณควรไปบางกะเจ้า สายตาฉันโหยหาการมองเห็นสีเขียวและชนบท คุณสามารถปั่นจักรยานไปรอบๆหลายชั่วโมงหรือทั้งวัน

ที่นั่นมีสวนที่เหมาะสำหรับนักวิ่งและนักปั่นจักรยาน, ตลาดน้ำวันเสาร์-อาทิตย์, วัดท้องถิ่น, ตลาดสด และพิพิธภัณฑ์ให้ได้เที่ยวชม นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารหลายแห่งไล่ตั้งแต่อาหารข้างทางไปจนถึงร้านอาหารแบบหรูหราที่มีสวนและน้ำตกไหลเย็นประดับประดา

คุณสามารถพักค้างคืนที่นี่ได้ถ้าคุณอยากตื่นมาได้ยินเสียงนกขันยามเช้า คุณจะได้ใช้ชีวิตช้าลงที่นี่และผู้คนก็ดูผ่อนคลายมากกว่า ให้ความรู้สึกเหมือนต้องมนต์และได้เข้าสู่โลกอีกใบหนึ่งได้เพียงแค่การนั่งเรือเข้าไปเท่านั้น

บางกะเจ้านั้นที่จริงอยู่ในจังหวัดสมุทรปราการ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงเทพ อยู่ทางใต้ของเขตตลองเตยและทางตะวันตกของเขตพระโขนง เพราะฉะนั้นคุณจะเห็นว่ามันตั้งอยู่ตรงชานเมืองกรุงเทพนี่เอง

ความจริงแล้วบางกะเจ้านั้นเป็นเกาะที่ถูกล้อมรอบด้วยน้ำทุกด้าน เกือบทั้งเกาะถูกล้อมรอบด้วยแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งทอดตัวเป็นทรงเกือกม้ากลับหัวและส่วนที่เหลือถูกล้อมรอบด้วยคลองคนขุด

ปัจจุบันทั้งเกาะถูกอนุรักษ์เนื่องด้วยความหลากหลายทางชีวภาพและสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติก็ได้รับการป้องกันด้วยการห้ามไม่ให้มีสิ่งปลูกสร้างหรือกิจกรรมทางการค้าขนาดใหญ่เกิดขึ้น ถ้าหากคุณเข้าไปดูในกูเกิ้ลแมพคุณจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนของสภาพภูมิประเทศของบางกะเจ้ากับกรุงเทพมหานครที่อยู่ติดกัน

วิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับคนกรุงเทพถ้าจะไปบางกะเจ้าก็คือการนั่งเรือ มีท่าเรือ 3 ท่าในกรุงเทพที่คุณสามารถนั่งเรือไปยังบางกะเจ้าได้

ท่าเรือเหล่านี้ได้แก่ ท่าเรือช่องนนทรีย์, ท่าเรือคลองเตย และท่าเรือบางนา คุณสามารถดูได้จากแผนที่ด้านบนที่ทำเครื่องหมายไว้แล้ว เรือส่วนมากอาจจะเป็นเรือที่เดินทางไปบางกะเจ้าเท่านั้น

ท่าเรือที่คลองเตยเป็นท่าเรือขนาดเล็ก ฉันรู้สึกได้ถึงหัวใจฉันที่เต้นรัวเมื่อมองดูเรือลำจิ๋วแล่นตัดกระแสน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เห็นได้ชัดว่าแม่น้ำเจ้าพระยามีน้ำมากขึ้นหลังจากได้น้ำจากฤดูฝน

ค่าเรือต่อคนอยู่ที่ 10 บาทต่อเที่ยว เรือใช้เวลาข้ามแม่น้ำประมาณ 5 นาทีไม่มีตารางการเดินเรือที่แน่นอน แต่ฉันมั่นใจว่าจะมีเรือให้คุณขึ้นแน่นอนระหว่างช่วงพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก และอาจล่วงเลยไปจนถึงหลังพระอาทิตย์ตกเล็กน้อย การเดินทางกลับก็ใช้วิธีเดียวกัน

นอกจากนี้คุณยังไปบางกะเจ้าได้โดยรถยนต์ ถึงเป็นวิธีที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมเนื่องจากคุณต้องเดินทางข้ามสะพานภูมิพลเพื่อข้ามแม่น้ำไปกว่าจะถึงบางกะเจ้า แต่ถ้าคุณไปกับครอบครัวหรือไม่สะดวกที่จะนั่งเรือลำเล็กๆ การนั่งรถก็เป็นวิธีที่คุณทำได้

บางกะเจ้านั้นเป็นที่นิยมมาในหมู่นักปั่นจักรยาน ในชุมชนเองก็ได้สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกไว้รองรับการปั่นจักรยานด้วย คุณสามารถเห็นร้านเช่าจักรยานหลายแห่งและมีเลนพิเศษสำหรับปั่นจักรยานอยู่ทั่วไปในบางกะเจ้า

ใกล้ๆท่าเรือก็มีร้านเช่าจักรยานอยู่ เมื่อเรานั่งเรือมาจากท่าเรือคลองเตย เมื่อมาถึงฝั่งคุณจะเห็นร้านเช่าจักรยานอยู่ใกล้ๆกับท่าเรือ ราคาค่าเช่าอาจจะมีขึ้นลงบ้างแล้วแต่ฤดูกาล

ค่าเช่ารถจัรยานหนึ่งคันอยู่ที่ประมาณ 30 บาทต่อชั่วโมงหรือ 100 บาทต่อวัน แต่เนื่องจากเรามาที่นี่ในช่วงวิกฤติโควิต คุณจะได้เช่าในราคาพิเศษเพียง 40 บาทต่อวัน ตรวจเช็คกุญแจสำหรับล็อคจักรยานให้เรียบร้อยว่าใช้งานได้และรู้วิธีใช้ก่อนเช่า

ฉันอยากแแนะนำให้คุณลองปั่นเพื่อเช็คเบรค, ความสูงของเบาะ, และลมยางก่อนเช่าด้วย เพราะคุณคงไม่อยากต้องมาติดแหง่กกับจักรยานพังๆหรือล็อคเสียอยู่ในบางกะเจ้าแน่ๆ

คุณสามารถเช่ามอเตอร์ไซต์ในบางกระเจ้าได้ด้วย มองหาป้ายโฆษณาด้านนอกท่าเรือหรือถามคนในพื้นที่ ค่าเช่ามอเตอร์ไซต์ควรอยู่ที่ประมาณ 250 บาทต่อคัน ในขณะที่ยังไงการปั่นจักรยานก็เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่การขี่มอเตอร์ไซต์ก็อาจจะเหมาะกับคุณหากคุณหรือเพื่อนที่มาด้วยไม่ถนัดปั่นจักรยาน หากคุณต้องการเช่ามอเตอร์ไซต์ไฟฟ้าคุณสามารถสอบถามได้ที่ร้านเช่ามอเตอร์ไซต์

ฉันไม่คิดว่ามีแท็กซี่ให้บริการที่นี่

เวลาที่ดีที่สุดสำหรับไปเที่ยวบางกะเจ้าคือหน้าหนาว เนื่องจากคุณต้องอยู่กลางแจ้งท่ามกลางแสงอาทิตย์เกือบตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ น่าจะดีกว่าที่จะมีจังหวะที่สามารถหลบจากความร้อนได้บ้าง

ถึงแม้ว่าอากาศในกรุงเทพจะไม่ได้เย็น แต่คุณก็พอจะสัมผัสได้ถึงลมเย็นๆในช่วงหน้าหนาวถ้าหากว่ามีแสงแดดที่พอเหมาะ ท้องฟ้าก็สดใส ไม่มีทางที่ฝนจะกระหน่ำลงมาทำลายแผนเที่ยวของคุณอย่างเด็ดขาด

ถ้าคุณไม่อยากอยู่ที่บางกะเจ้าทั้งวัน ฉันว่า 2-3 ชั่วโมงก็พอสำหรับปั่นจักรยานไปรอบๆ โดยเฉพาะในวันที่อากาศไม่ร้อน คุณสามารถมาที่นี่ได้ในช่วงเช้าหรือบ่ายแก่ๆประมาณ 15:30น. และปั่นจักรยานในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน

ฉันเที่ยวมาเยอะมากแต่ฉันก็ยังรู้สึกว่าไม่ได้มีร่างกายแข็งแรงอย่างที่ต้องการ เพราะฉะนั้นการปั่นจักรยาน 3 ชั่วโมงก็มากเกินพอสำหรับฉัน (และก้นฉันด้วย)

เราเริ่มต้นการเที่ยวของเราที่ท่าเรือจากนั้นก็ไปตามทางเรื่อยๆ ที่นี่ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในเวนิชที่ซึงคุณอยากจะดื่มด่ำไปกับบรรยากาศ บรรยากาศตอนที่เราปั่นจักรยานผ่านเรือกสวนไร่นาและต้นไม้ ทำให้นึกถึงสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงในเวียดนาม เพราะบรรยากาศโดยรอบ, ความชื้นในอากาศ, ทุ่งนาที่มีน้ำนอง และคนปั่นจักรยานหลายคนที่ปั่นสวนกันเป็นครั้งคราว

ในขณะที่มันเป็นวันสบายๆ คุณก็สามารถหยุดแวะหลายๆที่และทำให้มันเป้นวันที่มีเรื่องราวได้

ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาดใหญ่ในบางกะเจ้า ทางพิพิธภัณฑ์มีพันธ์ปลากัดพื้นบ้านมากมายจัดแสดงอยู่ในตู้ปลาขนาดย่อม มีการอธิบายถึงแหล่งที่อยู่อาศัย, การขยายพันธุ์, ธรรมชาติ และลักษณะเฉพาะของปลาชนิดต่างๆ

ปลากัดสยามหรือ “เบ็ตต้า” นั้นเป็นปลากัดสายพันธุ์ไทยที่สามารถพบได้ในประเทศอื่นๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีก 2-3 ประเทศเช่นกัน มีแหล่งขยายพันธุ์ใหญ่อยู่ที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ปลาพันธุ์นี้มีชื่อเสียงในด้านสีสันสดใสและมีครีบที่สวยงาม ความจริงแล้วปลาสายพันธุ์นี้ยังรู้จักกันในนาม “ปลานักออกแบบแห่งโลกใต้น้ำ” อีกด้วย

เบ็ตต้าตัวผู้นั้นจะหวงอานาเขตเป็นอย่างมาก บางครั้งหากเราจับตัวผู้ใส่ไว้ในโหลเดียวกัน มันอาจกัดกันจนตายได้ อีกทั้งมันยังสามารถมีชีวิตรอดได้ในแหล่งน้ำที่เสื่อมโทรมและมีระดับออกซิเจนต่ำ

นอกจากปลาต่างๆแล้ว สวนด้านนอกก็ได้รับการบำรุงรักษาเป็นอย่างดีและภายในสวนมีสระน้ำขนาดใหญ่ให้เดินเล่น เป็นอีกที่หนึ่งที่น่าแวะถ้าคุณมีเวลา

ที่นี่ควรเป็นที่แรกๆที่ควรต้องๆมา ฉันเคยไปสวนสาธารณะหลายที่ในกรุงเทพ แต่ที่นี่เป็นที่ที่ฉันชอบมากที่สุด อาจเป็นเพราะมันดูเป็นสวนจริงๆที่มีระบบนิเวศน์วิทยาตามธรรมชาติมากกว่าสวนสาธารณะที่ถูกสร้างขึ้น

ในสวนสาธารณะมีถนนกว้างขวางสำหรับนักปั่น และคุณจะได้พบเห็นผู้คนทุกเพศทุกวัยภายในสวนนี้ ภายในบริเวณสวนมีแหล่งน้ำอยู่หลายแห่ง มีการสร้างสะพานไม้ไว้ตามแหล่งน้ำหลายแห่งเพื่อให้คนสามารถเดินได้ เราได้เห็นนากและสัตว์หลายอย่างที่เราไม่รู้จักแหวกว่ายอยู่ใต้น้ำด้วย

ขณะที่เราเที่ยวสำรวจไปรอบๆนั้น เราก็เห็นว่ามีหอดูนกอยู่หนึ่งหลัง บอกตามตรงว่าตอนนี้เราไม่เห็นว่ามีนกอยู่เลย แต่จะมีฤดูกาลสำหรับดูนกและจะมีนกมาอาศัยอยุ่ที่นี่เยอะ เราสามารถเข้ามาภายในสวนได้โดยไม่เสียเงินค่าเข้า

เวลาทำการของสวนสาธารณะ: 6:30น. -18:30น. ในวันจันทร์-ศุกร์ และ 6:30น. -18:50น. ในวันเสาร์-อาทิตย์

ประเทศไทยจะไม่สมบูรณ์เลยถ้าไม่มีวัด แต่พูดกันตามตรง ฉันไม่เที่ยวมาหลายวัดมากๆจนไม่อยากจะไปไหนอีกนอกเสียจากว่าวัดนั้นจะมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามหรือมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ

แต่ถ้าคุณเป็นคนชอบเที่ยววัดหรืออยากไปไหว้พระ มีวัดอยู่บางแห่งที่ฉันอยากแนะนำ วัดบางกอบัว, วัดบางน้ำผึ้งใน, วัดบางกะเจ้ากลาง และวัดกองแก้ว

อีกวัดหนึ่งที่เป็นที่นิยมในบริเวณนี้ซึ่งเป็นวัดฮินดูที่มีรูปปั้นพระพิฆเนศขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลางวัด พร้อมด้วยพระศิวะ, พระปาราวตี และเทพเจ้าองค์อื่นๆในศาสนาฮินดูตั้งอยู่รอบๆวัด

ฉันไม่อยากจะเรียกที่นี่ว่าตลาดน้ำ ถ้าคุณอยากไปตลาดน้ำจริงๆ มีที่อื่นอีกหลายที่รอบๆกรุงเทพให้ไป แต่ที่นี่ก็ถือว่าเป็นตลาดที่น่ามาเดิน เพราะมีร้านขายอาหารข้างทางตั้งเรียงรายอยู่มากมาย

คุณสามารถแวะไปที่ตลาดนี้เพื่อทานอาหารมื้อกลางวันได้ถ้าคุณอยู่ที่บางกะเจ้าทั้งวัน ร้านต่างๆจะจัดโต๊ะและเก้าอี้ติดกับคลองไว้ให้ลูกค้าได้นั่งทานอาหาร ไม่ใช่อะไรที่หรูหรา แต่ก็เป็นธรรมชาติมาก

ที่นี่คล้ายกับตลาดที่อยู่ตามชนบทมากกว่า คุณสามารถหาซื้ออาหาร, เสื่อ, ผลิตภัณฑ์ทำมือ, เครื่องปั้นดินเผา, ไม้ประดับ, น้ำผึ้งแท้ และของทานเล่นมากมายได้ที่นี่ ที่น่าเสียดายคือตลาดนี้เปิดเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ อย่ามาผิดวันเป็นอันขาด

ที่นี่จะมาได้ง่ายมากเป็นพิเศษถ้าคุณเดินทางมาจากฝั่งบางนา มีรถสองแถวสีน้ำเงินจอดรออยู่ด้านนอกท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอก (ท่าเรือที่อยู่ตรงข้ามกับฝั่งบางนา) เพื่อนำนักท่องเที่ยวมายังตลาดน้ำด้วยค่าโดยสารคนละ 10 บาท

นอกจากที่ตลาดน้ำแล้ว ยังมีอีกหลายที่ในบางกะเจ้าที่คุณสามารถหาอาหารทานได้ มีตั้งแต่ร้านแบบรถเข็นข้างทางไปจนถึงร้านอาหารใหญ่ๆที่มีสวนสวยงาม เราแวะทานอาหารที่ร้านอาหารที่มีสวนที่ตัดแต่งสวยและมีน้ำพุในร้านด้วย

เนื่องจากที่บางกะเจ้าไม่ได้มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น (ซึ่งถือเป็นเรื่องดี) ที่นี่จึงไม่มีโรงแรมหลายแห่งนัก แต่ไม่นานมานี้ มีโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมผุดขึ้นพอสมควร คนในพื้นที่เองก็ได้ดัดแปลงบ้านให้เป็นโฮมสเตย์และลงโฆษณาบนอินเตอร์เน็ต

หนึ่งในโรงแรมที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจในบางกะเจ้าคือ บางกอก ทรี เฮาส์ ที่นี่เป็นโรงแรมขนาดเล็กทันสมัยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างมาก ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำ ที่นี่มีร้านอาหารให้บริการถ้าคุณเพียงอยากเข้าไปสัมผัสบรรยาการภายในโรงแรมว่าเป็นอย่างไร

Bangkok Tree House (บ้านสวยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม)

Baansuanklaikrung Bangkachao

Baanklangsoun Bangkorbou

Chobjai Hostelry – Chaw Cher Home at Bang Kra Jao (หรูหรา)