สิ่งที่ดีที่สุดที่ต้องทำในเชียงใหม่

เชียงใหม่เป็นประตูสู่ที่ราบสูงทางตอนเหนือของประเทศไทย อีกความหมายหนึ่ง พวกเขามีความแตกต่างจากวิวที่คุณเห็นของภูเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะของเทือกเขาหิมาลัย แต่ชาวเขาและเจดีย์ที่สร้างขึ้นบนยอดเขานั้นมีเสน่ห์ที่แตกต่าง นักท่องเที่ยวส่วนน้อยตัดสินใจที่จะเที่ยวภาคเหนือในประเทศไทยเมื่อเทียบกับหาดทราย แต่มันก็สถานที่ที่ต้องไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาวและช่วงวันลอยกระทง

ที่จริงแล้วหลังจากผ่านไปหนึ่งปีที่ฉันอยู่เมืองไทยฉันก็ตัดสินใจมาเที่ยวเชียงใหม่ด้วย ที่จริงแล้วอากาศเป็นสิ่งที่ค่อนข้างสำคัญสำหรับการเดินทางของ ในวันที่อากาศไม่ดี วิวภูเขาอาจดูไม่สวย เชียงใหม่ตอนนี้กลายเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของประเทศไทย และได้รับความนิยมอย่างฉับพลันกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเท่านั้นในปีที่ผ่านมา

เชียงใหม่ได้รับความนิยมจากชาวเมืองเป็นอย่างมากสำหรับโอกาสในการใช้เวลาในพื้นที่ภูเขาทางตอนเหนือ เชียงใหม่เป็นตัวเลือกสำหรับการพักผ่อนจากความร้อนและได้รับโอกาสที่จะเพลิดเพลินไปกับสภาพอากาศที่เย็นกว่าซึ่งหายากในประเทศไทย

แต่เชียงใหม่ได้รับความนิยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนักท่องเที่ยวยุคดิจิตอลในปีที่ผ่านมา เชียงใหม่ค่าครองชีพถูกกว่ากรุงเทพฯมาก และมีความน่าดึงดูดและความเย้ายวนใจสำหรับค่ำคืนที่สนุกสนาน เมื่อชุมชนชาวต่างชาติเติบโตขึ้นก็มีร้านกาแฟและพื้นที่ทำงานที่ใช้ร่วมกันดีขึ้น มันกลายเป็นสวรรค์ของแบ็คแพ็คเกอร์ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ชาวต่างชาติก็หายวับไปและการท่องเที่ยวก็ลดลง เหตุผลของเรื่องนี้ที่เป็นเรื่องที่ต้องคุยกันอีกยาว

อย่างที่ได้บอกไปก่อนหน้านี้ สภาพอากาศมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการมาเที่ยวเชียงใหม่ของคุณ อากาศที่ดีจะให้ความทรงจำที่หวานชื่น อากาศไม่ดีอาจทำให้คุณหายใจไม่ออกเลยล่ะ

ช่วงเวลาที่ดีที่สุด (ธันวาคม – มกราคม): ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือฤดูหนาว ที่จริงในประเทศไทยไม่มีฤดูหนาว แต่สองสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคมและสองสัปดาห์แรกในเดือนมกราคมนั้นอากาศดีที่สุด อุณหภูมิจะลดลงจนเหลือประมาณ 18 องศาเซลเซียสในส่วนอื่น ๆ ของประเทศไทย และลดลงเหลือ 14 องศาเซลเซียสในจังหวัดเชียงใหม่ มันสามารถลดลงไปถึง 4 องศาเซลเซียสหรือน้อยกว่านั้นในภูเขารอบ ๆ เชียงใหม่ อย่าลืมเรื่องนี้ถ้าคุณวางแผนที่จะตั้งแคมป์กลางแจ้ง

ตุลาคม, พฤศจิกายน, และกุมภาพันธ์ คือเดือนที่อากาศดีรองลงมา อากาศยังไม่ร้อนและเอ็นจอยกับอากศได้ อากาศไม่ค่อยชื้นและมีฝนตกเป็นครั้งคราว อย่างไรก็ตามคุณควรเตรียมตัวสำหรับการตกใจน้ำเย็นตอนอาบน้ำ และในช่วงกลางวันก็อุ่นกว่าด้วย

ช่วงเวลาที่อากาศไม่ดี (มีนาคมและเมษายน): ตรงกันข้ามกับสิ่งที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต นี่คือเดือนที่เลวร้ายที่สุดในการเยี่ยมชมเชียงใหม่ เดือนมีนาคมและเมษายนเป็นฤดูแล้งและร้อนแรงที่สุดในประเทศไทย บวกกับเป็นฤดูกาลของการเก็บเกี่ยวส่งผลให้เกิดไฟป่าเกือบทุกปีรอบๆเชียงใหม่ ไฟป่าสร้างควันที่ทำให้หายใจไม่ออกไปทั่วทั้งเมืองและคุณภาพอากาศลดลงถึงระดับที่เป็นอันตรายเที่ยวบินส่วนใหญ่จะถูกยกเลิก ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงเวลานี้

พฤษภาคม – กันยายน: ช่วงนี้ไม่ใช่เวลาที่เลวร้ายในการท่องเที่ยวเชียงใหม่ แต่อากาศอาจจะร้อน ฝนจะเริ่มตกในกลางเดือนพฤษภาคมที่ทำให้อากาศหายร้อนบ้างและเพิ่มความชื้น หากน้ำฝนไม่ทำให้แผนการกลางแจ้งของคุณเปียกโชก ความชื้นอาจจะส่งผลต่อกิจกรรมของคุณ คุณสามารถเลือกที่จะใช้เวลาในร่มในช่วงกลางวันและค่อยออกมากลางแจ้งในช่วงเช้าตรู่และบ่าย นักท่องเที่ยวที่จำกัดส่งผลให้เราได้รับข้อเสนอ ราคาที่ดีจากโรงแรมและผู้ประกอบการเกี่ยวกับการท่องเที่ยว

ช่วงเทศกาลในเชียงใหม่: ในช่วงสงกรานต์มีการเฉลิมฉลองอย่าสนุกสนานเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม เทศกาลลอยกระทงก็เป็นอีกเทศกาลเฉลิมฉลองที่ได้รับความสนใจมากมายใน เทศกาลลอยกระทงสอดคล้องกับวัฒนธรรมท้องถิ่นล้านนาด้วยเทศกาลยี่เป็ง ยี่เป็งคือโคมไฟนับร้อยที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ถ้าคุณต้องการชมยี่เป็ง มันจะอยู่ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคมหรือสัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายน ตรวจสอบล่วงหน้าเพราะวันที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

คุณสามารถใช้การเดินทางต่อไปนี้เพื่อไปเชียงใหม่

เครื่องบิน: เชียงใหม่มีสนามบินนานาชาติที่สะดวก หากคุณกำลังเดินทางภายในประเทศไทย ถ้าคุณจองล่วงหน้า ตั๋วเครื่องบินราคาจะถูกมาก สนามบินยังสามารถบินตรงระหว่างประเทศสิงคโปร์จีนไต้หวันพม่าและลาว สนามบินห่างจากในเมืองเพียง 5 กม. และคุณสามารถใช้บริการรถแท็กซี่(150 บาท) , แอร์พอร์ทบัส, รถสองแถวหรือรถตุ๊กตุ๊กไปในตัวเมือง

รถบัส: ฉันว่ารถโดยสารข้ามคืนเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดหากคุณกำลังเดินทางภายในประเทศไทย อันที่จริงคุณสามารถขึ้นรถบัสข้ามพรมแดนไปและกลับจากพม่าและลาว รถโดยสารที่ทันสมัยส่วนใหญ่มีเบาะนั่งที่สะดวกสบายพร้อมด้วยผ้าห่มและหมอน หลายคันมีห้องน้ำในตัว หากคุณเดินทางระยะไกลพวกเขาก็ให้บริการอาหารว่างอีกด้วย คุณสามารถจองรถบัสในประเทศไทยผ่านทางbusonlineticket , 12goasia หรือ Bookaway.com

รถไฟ: รถไฟมีจำนวนจำกัด มีการเส้นทางจากกรุงเทพฯไปยังเชียงใหม่โดยรถไฟ มันเป็นวิธีที่สะดวกสบายสำหรับการเดินทาง คุณสามารถจองที่นอนสำหรับตัวเองหรือแม้กระทั่งจองห้องโดยสารทั้งห้องสำหรับครอบครัวของคุณ ข้อเสียคือระยะเวลาในการเดินทางจะนานขึ้นเล็กน้อยและมีค่าใช้จ่ายเกือบสองเท่าของค่าโดยสารของรถบัส มีรถไฟสายตรงจากกรุงเทพ 5 ขบวนรวมถึงรถไฟข้ามคืน คุณสามารถจองตั๋วใน thairailwayticket.com

หากต้องการไปเที่ยวในเชียงใหม่คุณสามารถเลือกตัวเลือกเหล่านี้:

รถแท็กซี่ส่วนตัว: ตัวเลือกที่สะดวกและราคาถือว่าถูกในประเทศไทย รถแท็กซี่ถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม อาจจะเรียกรถแท็กซี่จากข้างถนนหรือจองผ่านแอพ Grab แท็กซี่มีให้ใช้บริการอย่างง่ายดายทั้งในและรอบเมืองเชียงใหม่ คุณควรจองสำหรับทั้งวัน ไม่งั้นคุณอาจจะไม่มีรถกลับ

รถจักรยานยนต์รับจ้าง:  เหมาะสำหรับผู้ที่เที่ยวคนเดียวและมีสัมภาระน้อย มอเตอร์ไซค์รับจ้างราคาถูกและคุณสามารถได้รับเรียกพวกเขาจากข้างถนนรอบๆเมือง ราคาอยู่ที่ประมาณ 10 บาทต่อกิโลเมตรแต่อาจแตกต่างกันไปตามเส้นทาง (ขึ้นอยู่กับคนขับ) แต่ต้องจับให้แน่นๆ ความปลอดภัยไม่ใช่วิสัยของมอเตอร์ไซค์รับจ้าง

การเช่ามอเตอร์ไซค์: การเช่ารมอเตอร์ไซค์ช่วยให้คุณมีความยืดหยุ่นและเพียงพอสำหรับ 2 คน คุณสามารถขอเช่าได้ที่โรงแรมหรือร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ พวกเขาอาจจะขอให้คุณบัตรประจำตัวประชาชนหรือเงินประกัน ค่าเช่าต่อวันประมาณ 250 บาทขึ้นอยู่กับยานพาหนะไม่รวมน้ำมัน คุณไม่จำเป็นต้องมีใบขับขี่ หมวกกันน็อกมีให้ แต่ค่อนข้างไร้ประโยชน์ในแง่ของความปลอดภัย

รถสองแถว: รถสองแถวมีพร้อมใช้งานในปริมาณมากในจังหวัดเชียงใหม่ ในความเป็นจริงพวกเขามีอยู่ในทุกเส้นทางที่เป็นที่นิยมของเมือง คุณสามารถนั่งรถสองแถวหารถบัสหรือสถานีรถไฟและพาคุณไปยังพื้นที่หลักของจังหวัดเชียงใหม่ จะมีค่าใช้จ่ายระหว่าง 30-80 บาทต่อคนสำหรับการนั่งในเมือง

เดย์ทัวร์หรือเดย์แค็บ: หากคุณไม่ต้องการที่จะค้นหาเส้นทางทั้งหมดด้วยตัวเอง ฉันคิดว่ามันดีเหมือนอย่างอื่น นอกจากนี้คุณยังสามารถคุยกับไกด์ท้องถิ่น ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือคุณอาจไม่ได้รับบริษัทที่คุณเลือก เราใช้พวกเขาสำหรับทริปไปยังสถานที่ตั้งอยู่ไกลออกไปนอกเมืองเช่นดอยอินทนนท์ คุณสามารถจ้างรถแท็กซี่ส่วนตัวตลอดทั้งวันเพื่อความสะดวกและความยืดหยุ่นมากขึ้น

จองเดย์แค็บ: การเหมารถสำหรับเที่ยวเชียงใหม่และรอบๆในวันเดียวหรือหลายวัน

นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายรถโดยสารในเมือง แต่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยได้ใช้ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเชียงใหม่ RTC ซิตี้บัส

Google Maps มักไม่น่าเชื่อถือในเชียงใหม่ ดาวน์โหลดแผนที่ท้องถิ่นผ่าน maps.me ที่จะนำทางได้แม้ไร้การเชื่อมต่อจากอินเทอร์เน็ต

เชียงใหม่มีวัดที่น่ารัก อาจจะไม่ฟู่ฟ่าเช่นเดียวกับในกรุงเทพฯ แต่พวกเขายังคงเป็นเอกลักษณ์ และมีจำนวนมาก ส่วนใหญ่ที่ได้รับความนิยมอยู่ในใจกลางเมืองที่เรียกว่าเป็น ‘เมืองเก่า’ คุณสามารถเยี่ยมชมที่นั่นในตอนเย็น แต่ถ้าคุณเคยไปวัดก่อนมาที่เชียงใหม่คุณสามารถเยี่ยมชมแค่หนึ่งหรือสองและละเว้นที่เหลือ

นั่นจะเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ เป็นโอกาสที่จะพูดคุยกับพระภิกษุสงฆ์เกี่ยวกับชีวิตของพวกเขา(เป็นที่นิยมโดยเฉพาะกับชาวต่างชาติ) มีโปรแกรม ‘สนทนาธรรม’ จากห้าวัดในเมือง ที่ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือวัดเจดีย์หลวงที่คุณสามารถเจอพระระหว่าง 9 โมงเช้าถึงหกโมงเย็นทางด้านทิศเหนือของบริเวณวัดแถวๆโต๊ะม้านั่ง เพียงแค่แนะนำตัวและแสดงความต้องการที่จะพูดคุย

วัดยอดนิยม (ลิ้งค์ไปยังตำแหน่งบน Google Map) ที่คุณต้องไปคือ:

วัดเจดีย์หลวง (เปิดตั้งแต่ หกโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น)

วัดพระสิงห์ (เปิดตั้งแต่ หกโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น)

วัดสวนดอก (เปิดตั้งแต่ หกโมงเช้าถึงสามทุ่ม)

วัดพระธาตุดอยคำ (เปิดตั้งแต่ หกโมงเช้าถึงหกโมงเย็น)

วัดศรีสุพรรณ (เปิดตั้งแต่ หกโมงเช้าถึงหกโมงเย็น)

วัดเชียงมั่น (เปิดตั้งแต่ แปดโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น)

วัดอุโมงค์ (เปิดตั้งแต่ หกโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น)

วัดโลกโมฬี (เปิดตั้งแต่ หกโมงเช้าถึงห้าโมงเย็น)

ดอยอินทนนท์เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย ขับรถไปหนึ่งชั่วโมงจากเมืองเชียงใหม่ แต่มันไม่ใช่แค่จุดสูงสุดที่คุณไปเยี่ยมชม ที่นั่นมีอุทยานแห่งชาติที่สมบูรณ์ล้อมรอบและมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย มีน้ำตก, วัด, เขตรักษาพันธุ์, หมู่บ้านชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง, สวนและแม้แต่โครงการพระราชดำริที่กษัตริย์ทำเพื่อประโยชน์ของคนในท้องถิ่น เราจะต้องใช้เวลาทั้งวันเพื่อดูทั้งหมดนี้ดังนั้นต้องเตรียมการเดินทางให้เหมาะสม

สำหรับฉันแล้วที่นี่เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาด วันที่เราไปคือวันที่หนาวที่สุดของปีและอุณหภูมิลดลงถึง-1⁰Cในตอนเช้า ในช่วงกลางวันมันก็เป็นที่น่าพอใจอีกครั้งกับแสงแดด ถ้าคุณรักกิจกรรมกลางแจ้งให้ลองตั้งแคมป์ที่นี่ สวนมีเต็นท์พร้อมเสื่อและมีร้านค้าให้ทาน ทัวร์วันเดียวกับมัคคุเทศก์ท้องถิ่นสะดวกมาก อย่าลืมสวมใส่เสื้อผ้าที่อบอุ่นกับคุณเมื่อคุณไปเยี่ยมชม

เวลาเยี่ยมชมดอยอินทนนท์: 6 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม

ราคาตั๋วดอยอินทนนท์: ราคา 300 บาทสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและฟรีสำหรับคนไทย หากคุณใช้ยานพาหนะส่วนตัวจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 30 บาทต่อคัน

วิธีเดินทางสู่ดอยอินทนนท์: หากคุณเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับ วิธีที่ดีที่สุดไปกับทัวร์ พวกเขารู้วิธีที่จ่ายค่าธรรมเนียมทั้งหมด มีอาหารที่เรียบง่ายรวมและไกด์ไทยในท้องถิ่นเพื่อพูดคุยกับผู้ที่บอกเล่าเรื่องราวมากมายให้คุณ คุณสามารถติดต่อกับตัวแทนการท่องเที่ยวท้องถิ่นจาก mychiangmaitour สำหรับทัวร์ที่กำหนดเอง

จองทัวร์ออนไลน์: ทัวร์กลุ่มเล็กเต็มวัน สำหรับอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้บริการรถแท็กซี่ส่วนตัวได้หากมีคนในกลุ่มเยอะ แต่มีราคาสูงกว่า ทัวร์วันเดียวในรถแท็กซี่ส่วนตัวคุณจะเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า 3000 บาทหากไม่มีตั๋ว

แต่ถ้าคุณต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้นคุณสามารถเช่ารถมอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์จากในเมือง สิ่งนี้ช่วยให้คุณขับรถตามจังหวะของคุณเอง หากคุณตั้งใจจะตั้งแคมป์ นี่เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม มีทั้งเต็นท์และเตียงนอนในสวน หากคุณต้องการสิ่งที่สะดวกสบายมากขึ้นคุณสามารถออกเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อสิ่งอำนวยความสะดวกระดับ 3 ดาวหรือ Glamping

สำหรับการขนส่งสาธารณะ มีรถสองแถวที่มีอยู่จากกลางเมือง(สีเหลือง) แต่นักท่องเที่ยวมักจะไม่ใช้พวกเขา คุณจะต้องเปลี่ยนพวกเขาสำหรับอีกคันหนึ่งที่ทางแยก นอกจากนี้เนื่องจากสวนสาธารณะมีขนาดใหญ่มากคุณจะต้องมียานพาหนะในสวน ไม่มีระบบขนส่งสาธารณะที่วิ่งภายในสวน ดังนั้นถ้าคุณไม่มีแผนอย่าใช้การขนส่งทางเดียว

บทความที่เกี่ยวข้อง: วิธีการเยี่ยมชมดอยอินทนนท์อุทยานแห่งชาติเชียงใหม่

วัดพระที่ดอยสุเทพเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดศาลเพียงตาของพระพุทธศาสนาเถรวาท ผู้แสวงบุญไม่เพียง แต่เดินทางมาไกลจากส่วนอื่น ๆ ของประเทศไทย แต่ยังมาจากประเทศลาวพม่าสิงคโปร์จีนและอินเดีย ‘วัดพระธาตุ’ แปลโดยตรงเป็น ‘วัดพระธาตุพุทธ’ ผู้คนเชื่อว่าวัดนี้เป็นที่ตั้งของอนุสรณ์กระดูกบ่าของพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง การก่อสร้างครั้งแรกของวัดมีอายุตั้งแต่ปี 1368

ในบทสรุปของตำนานพระชื่อ Sumanathera ฝันที่จะหากระดูกในปางชา เขาเห็นกระดูกที่มีคุณสมบัติเวทย์มนตร์ในขณะที่มันส่องแสงหายไปและทำซ้ำตัวเอง กษัตริย์ธรรมกายแห่งสุโขทัยกระตือรือร้นที่จะเห็นพิธีขว้างกระดูกสำหรับพระ แต่พบว่ามันตกต่ำ เขาขอให้พระเก็บไว้

แต่กษัตริย์องค์อื่นจากราชวงศ์ล้านนา(ปัจจุบันคือทางภาคเหนือของไทยใน) เชิญพระ เขามัดกระดูกส่วนหนึ่งไว้ที่หลังช้างเผือกแล้วปล่อยเขาไว้ในป่า ช้างปีนขึ้นดอยสุเทพเหยียบย่ำสามครั้งแล้วตาย กษัตริย์รับรู้ว่านี่เป็นสัญญาณและสั่งให้สร้างพระวิหาร

ครั้งหนึ่งมันเป็นการเดินทางของผู้แสวงบุญเพื่อไปที่วัด วันนี้วัดเชื่อมต่อกับถนนและระบบขนส่งสาธารณะเป็นอย่างดี วัดมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลาด้วยเจดีย์และยอดแหลมที่ยิ่งใหญ่กว่าครั้งสุดท้าย บางพระคัมภีร์ผนังแสดงถึงเรื่องราวของช้างเผือกและขอบเขตเกินกว่าถือมุมมองของหุบเขาโดยรอบ วัดฟรีสำหรับผู้เข้าชมทั้งหมด

เวลาควรเข้าชมวัดพระที่ดอยสุเทพ: 06:00-05:00 เวลาตอนเช้าดีที่สุดในการเยี่ยมชม

วิธีที่จะไปวัดพระที่ดอยสุเทพ: คุณสามารถขี่มอเตอร์ไซค์หรือจองรถแท็กซี่วันเดย์หรือกรุ๊ปทัวร์สำหรับทั้งดอยสุเทพกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ

ถ้าคุณอยู่ในงบประมาณที่คุณสามารถนั่งรถสองแถว(รถแดง) จากประตูช้างเผือก เชียงใหม่ จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 60 บาทสำหรับหนึ่งคน คุณจะพบรถแดงขากลับ

หากคุณพร้อมสำหรับการผจญภัยและร่างกายที่เหมาะกับสิ่งนี้คุณสามารถรับไกด์นำเที่ยวเพื่อไต่เขาไปที่วัด การเดินป่าในระดับปานกลางระหว่าง 3-6 ชั่วโมงคุณจะเดินท่ามกลางป่าไผ่พร้อมกับนกป่าและน้ำตกระหว่างทาง

จองทัวร์เดินป่า: จากเชียงใหม่: ทัวร์เดินป่าดอยสุเทพเต็มวัน

อุทยานแห่งชาติดอยปุยเป็นจุดที่สูงที่สุดในดอยสุเทพช่วง อุทยานแห่งนี้มีน้ำตกขนาดเล็กและแก่งต่างๆที่ไหลลงสู่น้ำตกอื่น ๆ ในเชียงใหม่ในที่สุด หน้าปกของป่าเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าเช่นไก่ฟ้านกอินทรีหมูป่าและลิงกัง อุณหภูมิค่อนข้างเย็นอากาศสบายและสถานที่มักถูกปกคลุมด้วยหมอกในเวลาเช้าและเย็น เตียงสวนป่าที่เต็มไปด้วยดอกไม้จะใช้พื้นที่ทั้งหมดที่เหลือ

ที่นิยมมากที่สุดในพื้นที่คือหมู่บ้านม้ง คนนี้เป็นหมู่บ้านที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดของเผ่าม้งในท้องถิ่น ที่นี่คุณสามารถมองดูในชีวิตประจำวันของพวกเขา มันอาจจะรู้สึกกระเพื่อมนิดหน่อย ชนเผ่าม้งเดิมมาจากข้ามชายแดนลาวในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง พวกเขาเคลื่อนย้ายลงใต้เพื่อหาที่ดินทำกินและเริ่มปลูกฝิ่นเพื่อการดำรงชีวิต ในปีพ. ศ. 2506 กษัตริย์ผู้ล่วงลับได้เสนอให้ชาวเผ่าปลูกลิ้นจี่ ครัวเรือนจำนวนมากมีสวนลิ้นจี่ในปัจจุบัน แต่การท่องเที่ยวของพวกเขาเติบโตขึ้นเพื่อเป็นแหล่งรายได้หลัก

ผู้คนในเผ่าหมู่บ้านนั้นมีความดั้งเดิมที่ลึกซึ้งและยึดมั่นในคุณค่าของบรรพบุรุษของพวกเขา เด็กหลายคนไปที่เมืองเพื่อศึกษาต่อ แต่ตัดสินใจกลับไปที่หมู่บ้านในภายหลัง แต่ละชุมชนภายในมีเครื่องดนตรีเทพเจ้าความเชื่อสไตล์การแต่งกายเทศกาลและประเพณี หากคุณตัดสินใจที่จะซื้อบางอย่างมันจะช่วยสนับสนุนชุมชน

ในหมู่บ้านคุณสามารถจ้างเด็กหรือนักเรียนในราคาที่สมเหตุสมผลเพื่อไกด์ให้คุณเห็นรอบหมู่บ้านของพวกเขา เด็กหญิงที่มีรูปร่างคล้ายตุ๊กตาหลายคนประดับเครื่องแต่งกายแบบดั้งเดิมและเรียกร้องให้ถ่ายรูปด้วย ในตอนแรกอาจรู้สึกผิดจรรยาบรรณ แต่ก็เข้าใจว่าเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวของพวกเขา นอกจากนี้ยังมีน้ำตกขนาดเล็กพิพิธภัณฑ์สวนและสวนดอกป๊อปปี้หากคุณใช้เวลาสำรวจรอบ ๆ

เวลาควรเที่ยวดอยปุย: สถานที่บางแห่งเช่นน้ำตกที่สำคัญเปิดให้บริการตั้งแต่ 8.00 น. ถึง 16.00 น. พื้นที่อื่น ๆ สามารถเข้าชมได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามหากไม่จำเป็นให้หลีกเลี่ยงการเดินในพื้นที่หลังจากพระอาทิตย์ตกดิน

ราคาตั๋วสำหรับเข้าดอยปุย: ทางเข้าฟรีสำหรับคนในท้องถิ่น บัตรเข้าชมน้ำตกและสถานที่สำคัญคือ 100 / 50บาท สำหรับผู้ใหญ่ / เด็กต่างชาติ

วิธีเดินทางไปยังหมู่บ้านดอยปุยและหมู่บ้านชาวม้ง: คุณสามารถท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับจากเมืองเชียงใหม่ไปยังดอยสุเทพทั้งที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายในแบบส่วนตัวหรือแบบหมู่คณะ

จองทัวร์:

ทัวร์ครึ่งวันดอยสุเทพและหมู่บ้านม้ง (คุ้มค่าเงิน)

หมู่บ้านชาวเขาดอยสุเทพและบริการชาวพุทธตอนเย็น (ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม)

ถ้าคุณสะดวกคุณสามารถเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขับไปบนถนนได้ (มันสนุกสำหรับเรา) แต่อากาศอาจจะเย็นได้ เพราะงั้นอย่ขับหลังพระอาทิตย์ตก

นอกจากนี้คุณยังสามารถไปทุกที่ของดอยสุเทพโดยรถสองแถว ใช้เวลาหนึ่งจากใจกลางเมืองไปยังวัดพระธาตุดอยสุเทพ จากนั้นเปลี่ยนอีกเป็นพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เปลี่ยนในครั้งสุดท้ายที่ดอยปุย นอกจากนี้ยังเป็นโหมดที่ถูกที่สุดสำหรับนักเดินทางคนเดียว

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมอ้างถึง thainationalparks.com

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์สร้างขึ้นเพื่อราชวงศ์ของไทยเมื่อพวกเขามาที่เชียงใหม่ พระราชวังมีชุดอาคารที่สร้างในสไตล์ไทยดั้งเดิมพร้อมสวนขนาดใหญ่และสระน้ำที่เต็มไปด้วยปลา พระราชวังเปิดให้สาธารณชนเข้าร่วมเมื่อราชวงศ์ไม่ได้อยู่ที่นั่น ฉันจะไม่พูดว่าต้องไปเพราะอาคารส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงได้ แต่สวนสวยมากและถ้าคุณอยู่บนดอยสุเทพด้วยวิธีของคุณเองการแวะไม่ใช่ความคิดที่ไม่ดี

เวลาเยี่ยมชมพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์: 8.30 น. ถึง 15.00 น. ทุกวันตลอดสัปดาห์

ราคาตั๋วพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์: 50 บาทสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 20 บาทสำหรับคนไทยและ 10 บาทสำหรับเด็ก

วิธีเดินทางไปยังพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์: คุณสามารถใช้รถสองแถวจากเชียงใหม่และเปลี่ยนที่วัดพระธาตุดอยสุเทพอีกอัน หรือคุณสามารถขับรถต่อไปได้หากคุณอยู่คนเดียว ไม่ใช่ทัวร์ทุกวันรวมถึงพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ในแผนการเดินทางของพวกเขา

เชียงใหม่เต็มไปด้วยตลาดกลางคืน ไม่เพียง แต่ในพื้นที่ที่ได้รับมอบหมายแผงขายชั่วคราวจะปรากฏขึ้นทั่วเมืองหลัก คุณสามารถเดินไปรอบ ๆ ถนนและเข้าสู่หนึ่งในสารที่คุณจะเห็นเส้นของร้านอาหารร้องเพลงเต้นรำแบบดั้งเดิมและมีชีวิต มีแม้มวยไทยไทย สิ่งเหล่านี้ยอดเยี่ยมสำหรับยามเย็นที่ผ่อนคลาย

นอกจากนี้ยังมีตลาดพิเศษในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ – ตลาดวันเสาร์และวันอาทิตย์ แต่ว่านะ มันแออัด! นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไปหาอาหารและดูหัตถกรรมท้องถิ่น ถ้ามันเหมาะกับรสนิยมของคุณ นี่คือตัวเลือกบางตัว (ลิ้งค์กับตำแหน่งบน Google Maps)

เชียงใหม่ไนท์บาซาร์ : เปิดตั้งแต่ 17.00 น. ถึง 12.00 น. ทุกวันตลอดสัปดาห์

วโรรสตลาด : 04:00-18:00 ทุกวันของสัปดาห์

ตลาดคืนวันเสาร์ : 16:00 น. – 23:00 น. เปิดเฉพาะวันเสาร์เท่านั้น

ตลาดคืนวันอาทิตย์ : 17.00 น. – 22.00 น. เปิดเฉพาะวันอาทิตย์

เพลินฤดีตลาดกลางคืน : 18.00 น. ถึง 12.00 น. ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ ปิดวันอาทิตย์

ห้วยแก้วเป็นน้ำตกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเมืองเชียงใหม่ พวกเขาสามารถเข้าถึงได้ง่ายและคุณจะได้พบกับชาวบ้านหลายคนที่มีครอบครัวและตะกร้าปิกนิก นอกเหนือจากน้ำตกหลักแล้วยังมีสระธรรมชาติรอบ ๆ พื้นที่ด้านล่าง หากคุณชอบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า น้ำเย็นในเดือนธันวาคมและมกราคม แต่อย่างอื่นสะดวกสบายมากที่จะแช่

มันอาจจะเป็นที่น่าผิดหวังในช่วงทีเขาแห้งเดือนของกุมภาพันธ์-พฤษภาคม น้ำตกมีชีวิตชีวาอย่างเต็มที่ในช่วงฤดูฝน มีเส้นทางเดินป่าที่เริ่มต้นที่นี่และขึ้นไปยังจุดชมวิววังบัวบาน แต่หากคุณไม่สะดวกที่จะไปเที่ยวน้ำตกในเวลานี้คุณยังสามารถข้ามไปได้ คุณสามารถรับอาหารและของว่างได้ที่ร้านอาหารเล็ก ๆ หลายแห่งนอกน้ำตก น้ำตกเยี่ยมชมได้อย่างอิสระ

เวลาเหมาะๆของน้ำตกห้วยแก้ว: 8.00 น. ถึง 17.00 น. ทุกวันถึงสัปดาห์

วิธีเดินทางไปยังน้ำตกห้วยแก้ว: เนื่องจากตั้งอยู่นอกเมืองคุณสามารถใช้บริการรถแท็กซี่แบบวันเดียว (โทรหา) หรือเช่ารถตุ๊กตุ๊ก

อุทยานหลวงราชพฤกษ์เป็นสวนพฤกษศาสตร์และสวนที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบการเข้าครองราชสมบัติปี 60 ของในหลวง ร.9 นอกจากนี้ยังใกล้กับวันเกิด 80 ปีบริบูรณ์ ขนาดที่แท้จริงของสวนสาธารณะทำให้ตาของผู้เข้าชมกว้าง ใบมีดของหญ้าแต่ละใบจะถูกตัดและพุ่มไม้ทั้งหมดจะถูกตัดแต่งอย่างประณีต

บริเวณโดยรอบของอุทยานถูกใช้งานโดยกลุ่มนักวิ่งออกกำลังกายในตอนเช้าและตอนเย็น ภายในอาคารอุทยานเป็นเรื่องราวของโครงการต่าง ๆ ที่ดำเนินการโดยกษัตริย์ตอนปลาย รูปภาพแสดงให้เห็นถึงโครงการเกษตรของพระราชเพ่งความสนใจไปที่ความหลากหลายของเมล็ดพันธุ์ข้าวฟาร์มโคนมไบโอดีเซลการประมงและการเก็บเกี่ยวน้ำฝน การอนุรักษ์ดินยกระดับชีวิตชาวนาด้วยการศึกษาการอนุรักษ์ป่าเป็นหัวข้ออื่น ๆ ที่จัดแสดง ทุกปีเกษตรกรและเกษตรกรรวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติด้านการเกษตรที่ดีที่สุด

สวนแบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ มีสวนเขตร้อนที่มีพืชและดอกไม้หลากหลายชนิดเฉพาะในประเทศไทย เรือนกระจกมีสมุนไพรและพืชทะเลทรายจัดแสดง ส่วนต่างประเทศมีดอกไม้จาก 24 ประเทศทั่วโลก สวนจะบานเต็มในช่วงฤดูหนาวระหว่างเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์

เวลาเยี่ยมชมอุทยานหลวงราชพฤกษ์: 9.00 น. ถึง 18.00 น. ทุกวันตลอดสัปดาห์

ราคาบัตรอุทยานหลวงราชพฤกษ์: 100/70 บาทสำหรับคนไทยผู้ใหญ่ / เด็ก 200/150 บาทสำหรับผู้ใหญ่ชาวต่างชาติ/ เด็ก มีบริการรถรางเพื่อเดินเล่นรอบสวนสาธารณะราคา 20/10 บาทสำหรับผู้ใหญ่ / เด็ก

วิธีเดินทางไปยัง อุทยานหลวงราชพฤกษ์: อุทยานหลวงราชพฤกษ์อยู่ห่างจากจังหวัดเชียงใหม่ 12 กม. คุณสามารถนั่งรถแท็กซี่จากเมืองหรือรถตุ๊กตุ๊กจากเมืองหลัก การขนส่งขากลับมักจะมีอยู่นอกสวนสาธารณะ

เส้นทางของพระเป็นการปรับขึ้นอย่างมากสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง มันเริ่มต้นที่จุดที่จะทำให้คุณสงสัยว่าคุณอยู่ในสถานที่ที่เหมาะสมหรือไม่ แต่เมื่อเราเริ่มปีนเขาเราเห็นเพื่อนเดินทางไปและกลับมา การปีนเขาอยู่ในระดับปานกลางและส่วนใหญ่เป็นร่มเงาด้วยต้นไม้ ชื่อทางของพระภิกษุได้รับเนื่องจากความจริงที่ว่าพระเริ่มดำเนินการในการเดินนี้ในช่วงเวลาเช้าตรู่ไปที่วัดสำหรับพิธีกรรมตอนเช้าของพวกเขา

หลังจากประมาณ 45 นาทีคุณจะไปถึงวัดที่มีอาคารขนาดเล็กหลายแห่งรวมตัวกัน อาคารบางหลังหายไปจากป่าและแม้หลังจากการบุกเบิกคุณจะพบพวกมันปกคลุมด้วยใบไม้ นอกจากนี้เรายังพบว่ามีคนพูดคุยกับพระสงฆ์ในเซสชั่นแยกต่างหาก มุมมองของเมืองจากด้านบนน่ารัก แต่สิ่งที่ตลกที่เรารู้คือคุณไม่จำเป็นต้องไต่เขาไปตลอดทางเพื่อขึ้นไปสู่จุดสูงสุด เป็นวัดที่เชื่อมต่อผ่านถนนที่มีเครื่องยนต์ในดอยสุเทพ ดังนั้นตอนนี้คุณรู้ว่าคุณมีทางเลือก บริเวณวัดมีอิสระที่จะเยี่ยมชม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหัวไหล่และขาของคุณครอบคลุมจนถึงเข่า

เวลาควรไปวัดผาลาด: ไม่มีการกำหนดเวลาอย่างเป็นทางการในวัด แต่เวลาเช้าจะดีที่สุดสำหรับการปีนเขาก่อนที่ความร้อนจะเข้ามา

วิธีเดินทางไปยังวัดผาลาด: แน่นอนคุณสามารถใช้เส้นทางของพระสงฆ์ คุณสามารถเริ่มต้นเส้นทางที่นี่ (google map) หากคุณไม่ต้องการที่จะธุดงค์คุณสามารถใช้รถสองแถวจากใจกลางเมืองหรือขับรถไปในดอยสุเทพ

หากคุณมีช่วงเย็นฟรีคุณสามารถออกไปล่องเรือไม้ไผ่ที่ช้าและสงบ เชียงใหม่ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำปิงซึ่งเป็นสาขาที่สำคัญของแม่น้ำเจ้าพระยา (แม่น้ำในกรุงเทพฯ) แม่น้ำลุยผ่านป่าทึบที่มีน้ำโคลนรองรับหลายครอบครัวด้วยอาหารและการเกษตร ฉันคิดว่ามันเป็นประสบการณ์ที่น่ารักโดยเฉพาะในตอนเย็น แต่คุณอาจไม่สามารถเพลิดเพลินกับพระอาทิตย์ตกได้เพราะมันปิดตัวลงในตอนเย็น ติดต่อตัวแทนการท่องเที่ยวท้องถิ่นสำหรับสิ่งนี้

ในกรณีที่คุณต้องการการผจญภัยมากขึ้นอีกนิดคุณสามารถขึ้นเหนือป่าแม่แตง บริเวณนี้มีกิจกรรมผจญภัยทั้งบนบกและในน้ำ มีถ้ำเชียงดาวอยู่ทางตอนเหนือของมันมีการเดินป่าขี่จักรยานในป่าพายเรือเล่นขี่เอทีวีและพายเรือคายัคที่ทำด้วยความช่วยเหลือของผู้ให้บริการทัวร์ท้องถิ่น ความยาว 10 กม. เป็นสถานที่สำหรับล่องแพในแม่น้ำสีขาวพร้อมมัคคุเทศก์ที่มีประสบการณ์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณพร้อมสำหรับการเดินทางในป่าด้วยอุปกรณ์ป้องกันยุง

กิจกรรมผจญภัยในเชียงใหม่:

แม่แตงล่องแก่งแม่น้ำน้ำสีขาว

ป่าแม่แตงเต็มวัน เรือคายัคแม่น้ำ

รถไฟเหาะ Zip Line Jungle Flight

น้ำตกบัวตองแปลกใจสำหรับผู้เยี่ยมชม คุณสามารถปีนขึ้นน้ำตกเหล่านี้ได้ น้ำที่ไหลลงมานั้นอุดมไปด้วยแคลเซียมมากจนทำให้ตะกอนบนหินสามารถยืนและปีนขึ้นไปบนต้นน้ำได้ มันเป็นส่วนใหญ่ที่นิยมกับชาวบ้านเพียงเพราะมันตั้งอยู่ประมาณ 60 กิโลเมตรนอกเมืองเชียงใหม่

ทางเข้ามีจุดปิกนิกกว้างที่เต็มไปด้วยชาวบ้านในช่วงกลางวัน มีห้องน้ำที่คุณสามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากอาบน้ำในน้ำตก คุณยังสามารถซื้อเครื่องดื่มและทานอาหารในพื้นที่ที่มีร้านค้าเล็ก ๆ ในท้องถิ่น หากคุณพยายามทำให้มันไปถึงจุดสูงสุดมีศาลเจ้าเล็ก ๆ ที่มีคนเยี่ยมน้อยมาก ฉันจะแนะนำให้คุณมาที่นี่ตั้งแต่เช้าตรู่และคุณอาจจะเพลิดเพลินไปกับสถานที่ทั้งหมดด้วยตัวเอง ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้า

เวลาเที่ยวน้ำตกบัวตอง: เปิดตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึงหกโมงเย็นทุกวัน

วิธีเดินทางไปยังน้ำตกบัวตองหรือน้ำตกเหนียว: หากทำได้คุณสามารถขับรถขึ้นไปที่น้ำตกผ่านยานพาหนะส่วนตัวเช่นรถมอเตอร์ไซค์ คุณสามารถต่อรองกับรถแท็กซี่ได้ (ค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางกลับไปที่น้ำตกจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท) รวมสถานที่ท่องเที่ยวอีกสองแห่งเช่นถ้ำเชียงดาวในพื้นที่ตลอดทั้งวัน ไม่มีระบบขนส่งสาธารณะไปยังสถานที่นี้ คุณยังสามารถเลือกที่จะทัวร์กลุ่มเพื่อความสะดวกยิ่งขึ้น

จองทัวร์: ถ้ำเชียงดาว, น้ำตก

สวนน้ำแกรนด์แคนยอนเชียงใหม่เป็นเหมือนรุ่นมินิของชาวอเมริกันคู่กับน้ำทำให้ทางผ่านที่อยู่ตรงกลาง มันอาจจะไม่ยิ่งใหญ่เท่าต้นฉบับ แต่มันสนุกสำหรับวันที่ขี้เกียจและสำหรับเด็ก ๆ คุณสามารถกระโดดจากหน้าผาลงไปในน้ำได้โดยตรง คุณต้องทำให้แน่ใจว่าคุณกระโดดไปที่จุดปลอดภัยเท่านั้นโดยมีผู้ฝึกสอนถ้าเป็นไปได้ มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงในอดีต ถ้ามันมากเกินไปสำหรับคุณคุณจะได้แพไม้ไผ่และร่อนอย่างขี้เกียจบนน้ำ มีร้านอาหารในบริเวณใกล้เคียงที่ให้บริการอาหารสด

มันเคยเป็นอัญมณีที่ซ่อนเร้นมากกว่าในบางช่วงเวลา ตอนนี้มันเป็นแหล่งท่องเที่ยวมากขึ้นด้วยการเพิ่มขึ้นของราคารายการทางดาราศาสตร์ซึ่งฉันไม่แน่ใจว่าเป็นธรรม ช่วงกลางวันจะร้อนมากดังนั้นเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมคือเช้าตรู่ การเดินทางโดยรถยนต์จากเมืองใช้เวลา 45 นาทีและการเดินทางอาจใช้เวลาส่วนใหญ่ในวันของคุณ

เวลาของสวนน้ำของสวนน้ำแกรนด์แคนยอนเชียงใหม่: 9.00 น. ถึง 18.00 น. ทุกวันตลอดสัปดาห์

ราคาตั๋วสวนน้ำแกรนด์แคนยอนเชียงใหม่: 450 บาท สำหรับผู้ใหญ่ และ 350 บาท สำหรับเด็กภายใต้ 1.2 เมตรความสูง 90 บาท สำหรับคนที่อายุต่ำกว่า 90 ซม เพิ่มเติม 50 บาท สำหรับเช่าล็อกเกอร์ 100 บาท เป็นเงินประกันสำหรับล็อคเกอร์คีย์

วิธีไปสวนน้ำแกรนด์แคนยอน: นั่งแท็กซี่จากเมืองที่มีราคาประมาณ 600 บาท คุณสามารถนั่งรถกลับจากจุดจอดแท็กซี่นอกสวน

มีบางเมืองรอบ ๆ เชียงใหม่ที่เรียกร้องความสนใจ ในความเห็นของฉันคุณต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งวันในสถานที่เหล่านี้ แต่ถ้าคุณสั้นตรงเวลาและยังต้องการตรวจสอบพวกเขาคุณสามารถใช้เวลาเดินทางเต็มวันกับ บริษัท ทัวร์ การเดินทางเป็นกลุ่มนั้นเร็วกว่าและมีราคาไม่แพงกว่าการทำด้วยตัวเองและเสียเวลาในการเลือกการชั่งน้ำหนักที่มีค่า

จังหวัดเชียงรายเป็นเมืองหลวงเก่าของล้านนาราชวงศ์ (ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศไทย) ก่อนที่เชียงใหม่ เมืองเล็ก ๆ กว่าเชียงใหม่เชียงรายยังคงมีวัดและสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ในความเป็นจริงฉันรู้สึกว่าเชียงรายมีการแสดงออกทางศิลปะบางอย่างที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะสถานที่ ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือวัดสีขาวหรือวัดร่องขุ่นซึ่งมีรายละเอียดที่ไม่น่าเชื่อ วัดสีน้ำเงินและพิพิธภัณฑ์สีดำเป็นสถานที่ที่คุณต้องไปเยี่ยมชม

จังหวัดเชียงรายเป็น 4 ชั่วโมงจากเชียงใหม่ คุณสามารถครอบคลุมได้โดยรถโดยสารสาธารณะหรือรถตู้ หากคุณกำลังวางแผนที่จะทำเช่นนี้ในการอ่านของคุณเองบนเกี่ยวกับสถานที่ที่คุณต้องไม่พลาดในจังหวัดเชียงราย

จองทัวร์วันไปเชียงใหม่เชียงราย: กลุ่มทัวร์วัดขนาดเล็กในเชียงใหม่เชียงรายที่มีชื่อเสียง

ปายเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ไม่มีนัยสำคัญไกลออกไปทางเหนือของประเทศไทย วิธีเดียวที่จะไปถึงปายคือโดยถนนโค้งที่อันตรายและใช้เวลาเดินทางน้อยมาก ปายเป็นสวรรค์ของนักเดินทางแบกเป้ มันเป็นมากกว่าหมู่บ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ แปลกตาและเงียบสงบมาก เนื่องจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นกับแบ็คแพ็คเกอร์ชาวต่างชาติทำให้ชาวบ้านเปิดโฮสเทลคาเฟ่และตลาดกลางคืนที่คึกคัก คุณสามารถเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับได้อย่างแน่นอน ลองและใช้เวลาที่นี่ถ้าคุณสามารถ

จองทริปวันเดียวไปปาย: ปายไฮไลท์ทริปวันเดียวจากเชียงใหม่

บทความที่เกี่ยวข้อง: คู่มืออย่างละเอียดเพื่อเยี่ยมปายประเทศไทย

ลำปางเป็นเมืองเล็ก ๆ ทางตอนใต้ของเชียงใหม่ประมาณ 2 ชั่วโมงโดยรถยนต์ เมืองนี้ได้รับความนิยมในเจดีย์ในสถาปัตยกรรมล้านนาดั้งเดิม หากคุณกำลังเดินทางมากรุงเทพและมีเวลามากคุณสามารถหยุดที่นี่ได้ทั้งวัน มีตลาดกลางคืนและอุทยานแห่งชาติรอบ ๆ บริเวณที่นักท่องเที่ยวแวะเวียน หากคุณสามารถให้อ้อมไปยังเจดีย์ลอยสูงขึ้นไปบนหน้าผาในจังหวัดลำปาง