สิ่งที่ควรทำห้ามพลาดในน่าน ประเทศไทย

สิ่งที่ควรทำห้ามพลาดในน่าน ประเทศไทย

Spread the love

หลังจากหมดแรงจากเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวกระแสหลักในประเทศไทยแล้ว ฉันก็เริ่มมองหาที่เที่ยวที่ได้รับความนิยมน้อยลงไปบ้าง ในขณะที่การเที่ยวตามสถานนี้แบบนี้นั้นถือเป็นการเปิดโอกาสให้ตัวเองเหมือนก้าวเข้าไปอยู่ในโลกใบใหม่นั้น การเที่ยวแบบนอกเส้นทางแบบนี้ก็ค่อนข้างยากพอสมควร

น่านเป็นหนึ่งในตัวเลือกของฉันมาสักพักแล้ว บอกตามตรงว่าฉันไม่เคยได้ยินชื่อจังหวัดนี้มาก่อน ไม่แม้แต่กระทั่งตามออนไลน์บล็อกต่างๆ แต่ฉันเห็นว่ามีจังหวัดน่านอยู่บนเชียงใหม่บอกทางไปน่านระหว่างทางไปปายและนั่นทำให้ฉันสนใจขึ้นมา

จากเท่าที่หาเจอบนอินเตอร์เน็ตนั้นทำให้ฉันค่อนข้างประหลาดใจพอสมควร น่านเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีสภาพภูมิประเทศที่น่าสนใจอีกจังหวัดหนึ่งของไทย โดยเฉพาะอย่างยื่งถ้าคุณชอบเนินเขา, ชนบท และป่ารกทึบ

ฉันขอแนะนำให้คุณเพิ่มจังหวัดนี้เข้าไปในแผนเที่ยวถ้าคุณเบื่อกับการเที่ยวตามจังหวัดดังๆแล้ว นี่คือทุกอย่างที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับจังหวัดน่าน

ภูมิทัศน์ในจังหวัดน่าน
ภูมิทัศน์ในจังหวัดน่าน

ทำไมต้องไปน่าน?

จังหวัดน่านนั่นเป็นจังหวัดที่ได้ชื่อว่าเป็นจังหวัดที่เป็นชนบทของไทย พื้นที่เต็มไปด้วยป่ารกทึบที่ดูเหมือนกลับมามีชีวิตอีกครั้งโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน เมื่อคุณเดินทางออกจากเมืองเล็กๆ คุณจะได้พบกับนาข้าวขนาดใหญ่ที่มีหุ่นไล่กา, สะพานไม้ไผ่ที่กระจัดกระจายอยู่รอบๆ

นอกเหนือจากเมืองหลักของน่านแล้ว จังหวัดนี้ยังมีอุทยานแห่งชาติที่สวยงามที่สุดในไทย ด้วยภูมิประเทศเป็นป่าเขาที่เต็มไปด้วยป่ารกทึบ น่านนั้นเหมาะย่างยื่งสำหรับการเดินป่าและการแคมปิ้ง

ไปเที่ยวน่านหากว่าคุณกำลังมองหาการเดินทางที่ต่างออกไปจากการเดินทางแบบเดิมๆ หรืออยากจะได้เห็นภาพชนบทแท้ๆของไทย ฉันได้ตกหลุกรักบ้านไม้สไตล์ล้านนา, ทุ่งนาสีเขียวอ่อน และผู้คนที่ออกมานั่งเล่นตรงระเบียงหน้าบ้าน

ผืนนารอบเมืองน่านมีเนินเขาเป็นฉากหลัง
ผืนนารอบเมืองน่านมีเนินเขาเป็นฉากหลัง

น่านอยู่ที่ไหน?

จังหวัดน่านนั้นตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทยค่อนไปทางฝั่งตะวันออก ตรงข้ามกับจังหวัดเชียงใหม่ ตัวจังหวัดนั้นมีชายแดนติดกับประเทศลาว พื้นที่ของจังหวัดล้อมรอบด้วยเนินเขา ความสูงเหนืออยู่ที่ 211 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

ไปน่านได้อย่างไร

คุณสามารถเดินทางไปน่านได้ด้วยทางเครื่องบินหรือทางรถยนต์

เครื่องบิน: คุณสามารถนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพตรงได้ยังน่านได้ จังหวัดน่านมีสนามบินภายในประเทศขนาดเล็กอยู่ โดยปกติแล้วจะมีเที่ยวบินบินไปที่น่านอย่างน้อยวันละครั้งและราคาตั๋วเครื่องบินนั้นไม่สูงจนเกินไป

สนามบินน่านอยู่ห่างจากตัวเมืองหลักเพียงแค่ 4 กิโลเมตร คุณสามารถนั่งแท็กซี่จากสนามบินเข้าเมืองได้ในเวลาประมาณ 15 นาที ค่าโดยสารประมาณ 100 บาท

รถโดยสาร: มีรถโดยสารวิ่งตรงจากกรุงเทพไปยังน่าน วันละ 1-2 เที่ยวทุกวัน และยังมีรถโดยสารจากจังหวัดอื่นๆที่วิ่งไปน่านด้วย อีกทั้งยังมีเส้นทางที่เชื่อมน่านกับเมืองหลายเมืองในประเทศพม่าและลาวเช่นกัน (แต่คุณควรตรวจสอบเส้นทางและการเปิดให้บริการอีกครั้ง) เวลาการเดินทางจากกรุงเทพจะเป็นในช่วงกลางคืน และรถโดยสารแบบ VIP นั้นก็สะดวกสะบายด้วยที่นั่งแบบเอนพนักพิงได้

คุณสามารถจองบัตรโดยสารที่ bookaway.com, 12go.asia หรือ busonlineticket.co.th รถโดยสารไปน่านนั้นต้องไปนั่งที่สถานีขนส่งหมอชิต ในกรุงเทพ

รถโดยสารจากกรุงเทพฯไปจังหวัดน่าน
รถโดยสารจากกรุงเทพฯไปจังหวัดน่าน

การเดินทางภายในน่าน

ไกด์ทัวร์: ถ้าหากว่าคุณมาเที่ยวน่านกันเป็นหมู่คณะ, กับครอบครัว หรือคุณอยากได้ความสะดวกสะบายแล้วละก็ ฉันอยากแนะนำให้คุณใช้บริการการเที่ยวเป็นกรุ๊ปทัวร์ จังหวัดน่านมีขนาดไม่ใหญ่ก็จริง แต่การเดินทางภายในจังหวัดนั้นไม่สะดวกและข้อมูลมีค่อนข้างน้อย ไกด์ทัวร์จะทำให้การเดินทางท่องเที่ยวของคุณนั้นง่ายดายขึ้นมาก อีกทั้งคุณยังสามารถกำหนดแผนการเที่ยวของคุณเองได้อีกด้วย ทีนี้คุณก็สามารถเพิ่มกิจกรรมผจญภัยเพิ่มเติมเข้าไปในแผนเที่ยวได้สบายๆ

เข้าไปดูไกด์ทัวร์ออนไลน์ภายในน่านได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถสอบถามบริษัททัวร์ที่ให้บริการอยู่ในท้องถิ่นเพื่อทางเลือกที่มากขึ้น หรือหากว่าคุณต้องการทำแผนเที่ยวของคุณเองใหม่ทั้งหมด คุณสามารถเข้าไปเช็คกรุ๊ปทัวร์นี้ที่ทำกรุ๊ปทัวร์ให้ครอบคลุมการเดินทางในเขตจังหวัดอื่นๆในภาคเหนือได้

รถจักรยาน: รถจักรยานนั้นสามารถหาได้ง่ายๆทั่วเมืองหรือคุณสามารถหาเช่าได้ตามโรงแรมหรือโฮสเทลที่คุณเข้าพัก หากว่าสถานที่ที่คุณพักไม่มีบริการให้เช่า ทางที่พักมักจะมีที่เช่าแนะนำให้ แต่คุณสามารถปั่นจักรยานได้เพียงในตัวเมืองน่านเท่านั้น

ถ้าคุณเช่าได้จักรยานดีๆ คุณอาจสามารถไปปั่นไปเที่ยวระยะทางไกลๆได้ เพียงแต่ต้องมั่นใจว่าระยะทางที่จะปั่นนั้นไกลแค่ไหนและคุณสามารถปั่นไหว ฉันไม่ขอแนะนำให้คุณปั่นออกนอกเมืองไปไกลกว่า 20 กิโลเมตรเพราะ คุณอาจะไม่สามารถหารถกลับเข้าเมืองหรือไม่สามารถหาร้านซ่อมได้หากรถจักรยานคุณมีปัญหา

รถมอเตอร์ไซต์: น่านถือเป็นอีกหนึ่งสวรรค์ของสิงห์นักบิดเลยก็ว่าได้ คุณสามารถเห็นนักบิดวิ่งอยู่บนทางหลวงจากเชียงใหม่และเชียงรายไปม่านอยู่เรื่อยๆ ข้อเสียอย่างเดียวคือร้านเช่ามอเตอร์ไซต์ในน่านนั้นหายากมาก แทบจะไม่มีร้านเช่ามอร์เตอร์ไซต์สำหรับนักท่องเที่ยวในน่านเลย วิธีที่ดีที่สุดที่จะหาเช่ามอเตอร์ไซต์คือการสอบถามกับทางโรงแรมที่คุณเข้าพักและหวังว่าทางโรงแรมจะสามารถช่วยคุณได้

คุณสามารถวางแผนการเที่ยวโดยเริ่มขับมอเตอร์ไซต์จากอีกเมืองหนึ่งมายังน่าน คุณอาจสามารถหาร้านเช่ามอเตอร์ไซต์ได้ที่  โตโน่ รถเช่า หรือ ยามาฮ่าดีลเลอร์ (บางครั้งทางร้านจะนำรถมอเตอร์ไซต์มือสองของทางร้านมาให้เช่า) ที่อยู่ใกล้กับสถานีขนส่งน่านได้หากคุณโชคดี ค่าเช่าต่อวันอยู่ที่ 250 บาทสำหรับมอเตอร์ไซต์ขนาด  125 ซีซี หรือเทียบเท่า ขึ้นอยู่กับมอเตอร์ไซต์

หากคุณรักการขับรถมอเตอร์ไซต์และอยากขับเที่ยวในเส้นทางที่ไกลกว่านี้ คุณสามารถตามไปอ่านการเที่ยวตามเส้นทางวงแหวนแม่ฮ่องสอนทางตะวันตกเฉียงเหนือขของไทยได้ เส้นทางการเดินทางเริ่มจากเชียงใหม่ มุ่งหน้าไปสู่ปายและเลยไปแม่ฮ่องสอน, แม่สะเรียง และย้อนกลับมาที่ดอยอินทนนท์ ซึ่งเว้นทางนี้สามารถเดินทางต่อมายังน่านได้ด้วย ตามไปอ่านคู่มือแบบสมบูรณ์ของการท่องเที่ยวเส้นทางวงแหววนแม่ฮ่องสอนได้

ขี่สองล้อน่าน
ขี่สองล้อน่าน

เช่ารถยนต์: โชคยังดีที่การหารถเช่าในน่านนั้นทำได้ง่ายกว่าการหาเช่ามอเตอร์ไซต์มาก คุณสามารถเช่ารถได้ง่ายๆจากที่สนามบิน ถ้าหากว่าคุณต้องการเดินทางไปต่างเมือง คุณสามารถคืนรถตามเมืองที่คุณต้องการไปได้หากคุณทำการเช่าจากทางออนไลน์ ที่จอดรถนั้นก็หาไม่ยาก การเช่ารถขับนั้นจะมีประโยชน์เป็นพิเศษโดยเฉพาะในหน้าฝนและหน้าร้อน

คุณสามารถเช่ารถออนไลน์ได้ทาง  vipcars.com หรือ jetcost.co.th หรือคุณอาจหาร้านช้่ารถในน่านหรือตามโรงแรมที่คุณเข้าพักได้เช่นกัน ค่าเช่ารถยนต์ต่อวันนั้นเริ่มตั้งแต่ 1,000 บาท ขึ้นไปแล้วแต่ชนิด, ขนาด และประเภทของรถ

สิ่งห้ามพลาดในน่าน

วัดในน่าน

การเที่ยววัดนั้นเป็นที่นิยมมากในประเทศไทย บางทีคุณอาจไม่ได้อยากไปเที่ยววัดนัก แต่น่าประหลาดใจที่ฉันคิดว่าวัดที่น่านนั้นมีลักษณะที่ต่างออกไปจากวัดในจังหวัดอื่นๆ แต่ละวัดของที่นี่นั้นมีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง

ถึงแม้ว่าคุณไม่อยากเดินเข้าไปเที่ยวให้ทั่วทั้งหมดก็ตาม (ยกเว้นวัดภูมินทร์) แต่คุณควรแวะไปชมสถาปัตยกรรมของแต่ละวัด วัดส่วนมากนั้นอยู่ในระยะที่สามารถเดินจากวัดหนึ่งไปอีกวัดหนึ่งได้ นี่คือวัดสวยๆบางแห่งในเมืองน่าน

วัดภูมินทร์: วัดภูมินทร์เป็นวัดที่คุณห้ามพลาดเป็นอันขาด ถึงอย่างนั้นคุณอาจบังเอิญเดินเข้าไปภายในวัดโดยไม่ตั้งใจอยู่ดีเนื่องจากวัดนี้มีผู้คนพลุกพล่านในช่วงกลางคืนเพราะอยู่ติดกับไนท์มาร์เก็ต ในบางวันคุณอาจได้เห็นการแสดงท้องถิ่นด้วย นอกเหนือจากการเป็นเป็นจุดยอดนิยมของเมืองแล้ว ตัววัดเองก็มีชื่อเสียงในเรื่องภาพวาดจิตรกรรมฝาหนังที่อยู่ภายในวัด

คุณต้องไปวัดภูมินทร์เพื่อที่จะได้รู้ว่า ภาพวาด “กระซิบรักบรรลือโลก” นั้นอยู่ตรงไหน ภาพวาดฝาผนังนี้อยู่ภายในวัดที่ได้กลายมาเป็นหน้าเป็นตาของจังหวัด คุณจะเห็นภาพนี้ได้ทุกที่ ตั้งแต่เสื้อเชิ้ต, ของชำร่วย, เมนูอาหาร, การ์ด และเอกสารท่องเที่ยว

ภายในภาพนั้นมีรูปชายหนุ่มที่กำลังกระซิบกลอนรักที่หูของหญิงสาวที่กำลังยิ้ม แสดงถึงวิธีการจีบผู้หญิงในสมัยก่อน

นอกเหนือไปจากนี้ วัดภูมินทร์ยังเป็นสถานที่ตั้งของหุ่นขี้ผึ้งของมนุษย์ (คล้ายกับมาดามทุสโซ่) หุ่นแรกของประเทศไทย หุ่นขี้ผึ้งนี้เป็นหุ่นของพระสงฆ์ตั้งอยู่ตรงฐานของพระประธาน หลังจากสร้างหุ่นนี้ ศิลปินผู้สร้างได้สร้างหุ่นขี้ผึ้งอีกหลายตัวที่ตอนนี่ตั้งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทยใกล้กรุงเทพ

วัดภูมินทร์ยามค่ำคืนในจังหวัดน่าน
วัดภูมินทร์ยามค่ำคืนในจังหวัดน่าน
ภาพจิตรกรรมฝาผนัง 'กระซิบรัก' ภายในวัดภูมินทร์
ภาพจิตรกรรมฝาผนัง 'กระซิบรัก' ภายในวัดภูมินทร์
รูปพระภายในวัดภูมินทร์
รูปพระภายในวัดภูมินทร์

วัดศรีพันต้น: ที่นี่เป็นวัดที่อยู่ถัดจากป้ายรถเมล์เพียงเล็กน้อยซึ่งคุณสามารถมองเห็นตัววัดได้จากในระยะไกล อุโบสถนั้นเป็นสีทองเหลืองอร่าม ดูน่าเกรงขาม หากคุณเดินไปรอบๆคุณจะค้บพบว่ามีรูปแกะสลักของพญานาคห้าเศียรและพยาครุฑที่ถูกสลักลงบนตัวอาคารได้งดงามอย่างน่าอัศจรรย์

วัดศรีพันต้น
วัดศรีพันต้น

วัดมื่งเมือง: การมาที่นี่นั้นก็เพียงแค่คุณเดินทางจากวัดศรีพันต้น คุณจะรู้ได้ทันทีเมื่อคุณมาถึง ด้านขวามือของคุณจะเป็นอุโบสถสีขาวไข่มุกซึ่งมองแว่บแรกนั้นดูเหมือนหินอ่อน ซึ่งทำให้ฉันคิดถึงวัดขาวที่เชียงเชียงราย

หากว่าคุณเดินเที่ยวแถวนี้จนถึงช่วงพระอาทิตย์ตกแล้วละก็ คุณจะได้เห็นพระอุโบสถสะท้อนแสงส้มชมพูในตอนเย็น สวยงามเป็นอย่างยิ่ง

วัดมิ่งเมือง
วัดมิ่งเมือง

วัดสวนตาล: ฉันชอบวัดนี้เพราะว่าสีแดงและทองที่ประดับอยู่ด้านหน้าพระอุโบสถ ฉันเคยไปเที่ยวตามวัดไทยในหลายที่แต่คุณแทบจะไม่เคยเห็นศิลปะด้านหน้าพระอุโบสถแบบนี้เลย มันทำให้พระอุโบสถนั้นดูโดดเด่นสวยงาม ที่นี่นั้นคุ้มค่าสำหรับการแวะเที่ยวสำหรับฉัน แต่คุณอาจไม่ต้องแวะก็ได้หากคุณไม่ชอบเที่ยววัดเท่าไรนัก

วัดสวนตาล
วัดสวนตาล

วัดพระธาตุเขาน้อย

วัดอีกแล้วเหรอ? ฟังให้จบก่อน! วัดพระธาตุเขาน้อยไม่ได้เเป็นแค่วัดธรรมดา ผู้คนแห่ไปเที่ยวที่วัดนี้เพราะวิวต่างหาก อีกทั้งวัดนี้ยังมีพระพุทธรูปสีทองสูง 9 เมตร มีชื่อเสียงที่ตั้งหันหน้าไปทางหุบเขาและตัวเมืองที่อีกด้วย พระพุทธรูปนี้ถูกนำมาประดิษฐานไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ในหลวงรัชการที่ 9

การเดินทางไปที่วัดนี้นั้นคุณต้องขับรถออกไปนอกตัวเมืองประมาณ 10 กิโลเมตร มุ่งหน้าไปทางภูเขาอีกลูก แลกกับการขับรถไป คุณจะได้เห็นวิวของทั้งหุบเขาจากตัววัด วัดนี้นั้นถูดสร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่มีการผสมสผสานของสถาปัตยกรรมของพม่าอยู่ด้วย

เวลาเปิดปิด: 6:00 น. – 18:00 น. ช่วงเวลาที่ดีสุดสำหรับการไปวัดนี้คือช่วงพระอาทิตย์ตกดิน

หากคุณต้องการ คุณสามารถจองทัวร์เพื่อไปวัดได้ในตอนเช้าเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น บริษัททัวร์นั้นร่วมมือกับคนในท้องถิ่นโดยจะพาคุณไปเดินตลาดเช้า และได้ลองประสบการณ์การใส่บาตรพระสงฆ์ที่ออกมาเดินบิณฑบาตรในช่วงเช้าด้วย ตามไปดูทัวร์นี้ได้ที่นี่

พระทองคำมองเห็นหุบเขาน่าน
พระทองคำมองเห็นหุบเขาน่าน

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่านนั้นถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวน่าน ตัวพิพิธภัณฑ์นั้นเป็นอดีตคุ้มของเจ้าผู้ครองนครน่าน 2 สุดท้ายนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2446 น่านนั้นเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรล้านนา (ที่ประกอบไปด้วยหลายส่วนทางตอนเหนือของไทย เช่น เชียงใหม่, เชียงราย, พม่า และลาว) ซึ่งในเวลาต่อมาพื้นที่ของอาณาจักรส่วนใหญ่ถูกผนวกเข้ากับราชอาณาจักรสยาม

ในปี พ.ศ. 2474 เจ้าผู้ครองนครคนสุดท้ายของน่านได้มอบคุ้มนี้ให้กับทางราชการและจากนั้นคุ้มก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่เห็นว่าที่นี่พิเศษ แต่มันก็คุ้มค่าในการมาเยี่ยมชม ทางพิพิธภัณฑ์มีพระพุทธรูปเก่าแก่มากมายที่มาจากาทางภาคกลางของไทย, อาณาจักรล้านนา และแม้กระทั่งจากพม่า ซึ่งคุณจะได้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างศิลปะของแต่ละที่ได้อย่างลึกซึ้ง

นอกจากนี้ที่นี่ยังมีสิ่งประดิษฐ์จากยุคอาณาจักรล้านนาที่ประเมินค่าไม่ได้ พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองและสามารถเดินทางไปได้ง่ายมากๆ

เวลาเปิด-ปิดของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน: เปิด 9:00 น. – 16:00 น. ตั้งแต่วันพุธ – วันอาทิตย์ ปิดวันจันทร์และวันอังคาร

ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน: 20 บาทสำหรับคนไทย และ 100 บาทสำหรับชาวต่างชาติ

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน
ห้องแสดงภาพเหตุการณ์สำคัญในจังหวัดน่าน
ห้องแสดงภาพเหตุการณ์สำคัญในจังหวัดน่าน
โบราณวัตถุที่สำคัญจากอาณาจักรล้านนา
โบราณวัตถุที่สำคัญจากอาณาจักรล้านนา

โฮงเจ้าฟองคำ

โฮงเจ้าฟองคำนั้นเป็นอดีตคุ้มของเจ้านายของทางล้านนาซึ่งมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าช่างทอของราชสำนัก

ตัวบ้านนั้นประกอบด้วยเรือนไม้สักยกสูงหลังเล็กๆ 3 หลังที่ถูกสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านนาโบราณด้วยไม้สัก อายุกว่า 100 ปี

ห้องแต่ละห้องนั้นยังมีเครื่องใช้ไม้สอยสมัยนั้นถูกจัดวางไว้อย่างครบถ้วน หากว่าคุณใช้จินตนาการสักนิด คุณแทบจะรู้สึกได้ว่าคุณได้ย้อนเวลากลับไป ภายในครัวยังมีหม้อดินเผาและเครื่องใช้ต่างๆนั้นดูเหมือนซื้อหาจากท้องถิ่นนี้

ตัวบ้านนั้นถูกเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์และตรงใต้ถุนถูกจัดให้เป็นที่แสดงศิลปะการทอผ้า มีเครื่องทอผ้าตั้งอยู่ที่พื้น มีหญิงสาวขับร้องเพลงพื้นเมืองให้นักท่องเที่ยวได้รับฟัง ช่างมีเสน่ห์จริงๆ ร้านขายของที่ระลึกด้านในนั้นมีเสื้อผ้าทำมือในแบบล้านนาไว้ให้ซื้อหากว่าคุณอยากแต่งตัวแบบคนท้องถิ่นของที่นี่

เวลาเปิด-ปิดของโฮงเจ้าฟองคำ: เปิดตั้งแต่ 9:00 น. – 17:00 น. วันพุธ – วันอาทิตย์ ปิดวันจันทร์และวันอังคาร

ค่าเข้าชมโฮงเจ้าฟองคำ: 20 บาทต่อคน

โฮงเจ้าฟองคำน่าน
โฮงเจ้าฟองคำน่าน
ผู้หญิงกำลังเล่นเพลงท้องถิ่นภายในโฮงเจ้าฟองคำ
ผู้หญิงกำลังเล่นเพลงท้องถิ่นภายในโฮงเจ้าฟองคำ

อุทยานแห่งชาติดอยภูคา

ถึงแม้จะมีอุทยานแห่งชาติตั้งอยู่โดยรอบจังหวัดน่าน ที่นี่นั้นตั้งอยู่ภายในตังจังหวัดใกล้กับชายแดนตัดประเทศลาว ดอยภูคาเป็นจุดสูงสุดของจัวหวัดน่าน ที่นี่มีความสำคัญทางศาสนาเป็นอย่างยิ่งเนื่องจากเชื่อว่าเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าพ่อภูคา

ด้านบนนั้นเป็นแหล่งกำเนิดของต้นชมพูภูคาซึ่งเป็นต้นไม้หายากใกล้สูญพันธุ์ที่เหลืออยู่ไม่กี่ต้นในโลก ด้านบนดอยภูคานั้นสามารถมองเห็นวิวของสภาพภูมิประเทศโดยรอบได้สวยที่สุดในน่านเนื่องจากตั้งอยู่บนภูเขาสูง

การขับรถไปยังอุทยานแห่งชาตินั้นก็สบายหูสบายตา เนื่องจากคุณจะได้ขับรถผ่านชนบทที่เต็มไปด้วยทุ่งนาสีเขียว, ทุ่งหญ้าโล่งที่มีสัตว์แทะเล็มหญ้า และเมื่อคุณเริ่มขับสูงขึ้นไปนั้นคุณจะค่อยๆเห็นวิวของหุบเขารอบๆจากมุมสูง

ถ้าทำได้ อยากให้คุณค้างที่อุทยานแห่งชาติสักหนึ่งคืนและออกไปเดินป่าตอนเช้าตามเส้นทางที่คนมักนิยมไป อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเที่ยวที่อุทยนแห่งชาติดอยภูคาได้ที่นี่

ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติดอยภูคา: 40/20 บาทสำหรับคนไทย ผู้ใหญ่/เด็ก, 200/100 บาทสำหรับต่างชาติ ผู้ใหญ่/เด็ก

การเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติดอยภูคา: ไม่มีระบบขนส่งสาธารณะไปถึงตัวอุทยาน คุณต้องมีรถส่วนตัวเข้าไปเท่านั้น เส้นทางนี้เป็นที่นิยมเป็นอย่ามากในหมู่นักขับมอเตอร์ไซต์

อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
ทางหลวงจังหวัดน่าน
ทางหลวงจังหวัดน่าน

น่านไนท์มาร์เก็ต

ค่อนข้างเป็นธรรมเนียมที่คุณต้องไปเดินไนท์มาร์เก็ตเมื่อคุณไปเที่ยวเมืองไหนก็ตามในไทย อย่างน้อยก็สำหรับพวกเรา เพราะฉะนั้นเมื่อใกล้ช่วงเย็น เราจึงมุ่งหน้าไปยังไนท์มาร์เก็ตที่เป็นที่นิยมที่สุด ในกรณีของน่าน ฉันพบว่าน่านมีไนท์มาร์เก็ตที่ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว

ตลาดแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณถนนด้านหน้าวัดภูมินทร์และยาวไปถึงภายในบริเวณลานวัด ร้านอาหารมีเสื่อขนาดใหญ่ปูพื้นและโต๊ะไม้ไผ่เตรียมไว้ให้ลูกค้าทานอาหาร อีกฝั่งหนึ่งของตลาดนั้นเป็นสวนสาธารณะที่คุณสามารถไปใช้บริการนวดเท้ากลางแจ้งได้

ตลาดโต้รุ่งน่าน
ตลาดโต้รุ่งน่าน
คนนั่งกินข้าวที่ตลาดโต้รุ่งภายในวัดภูมินทร์
คนนั่งกินข้าวที่ตลาดโต้รุ่งภายในวัดภูมินทร์
ภาพจิตรกรรมฝาผนังของ Whisper of Lover เหนือของที่ระลึก
ภาพจิตรกรรมฝาผนังของ Whisper of Lover เหนือของที่ระลึก

เนื่องจากเราอยู่ที่น่านในช่วงวันลอยกระทง เราจึงได้ไปเที่ยวงานวัดที่ริมแม่น้ำด้วย คุณสามารถเที่ยวแบบประหยัดด้วยการเล่นเกมส์ยิงโป่ง ทั่วทั้งงานสว่างไสวไปด้วยแสงไฟนีออน และแน่นอนว่าคุณสามารถเห็นงานวัดแบบนี้ได้เกือบทุกที่ทั่วเมืองไทย

เวลาเปิดปิดไนท์มาร์เก็ต: 18:00 น. – 22:00 น. ทุกวัน

งานลอยกระทงจังหวัดน่าน
งานลอยกระทงจังหวัดน่าน
เกมยิงปืนท้องถิ่นในช่วงลอยกระทง
เกมยิงปืนท้องถิ่นในช่วงลอยกระทง

ริมแม่น้ำน่าน

เมืองน่านนั้นตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่านที่เป็นแม่น้ำสายเล็กๆ ถ้าหากว่าคุณพอจะมีเวลาเหลือในช่วงเย็นของสักวัน ฉันอยากแนะนำให้คุณไปเดินเล่นริมน้ำ เราได้เห็นมีคนกำลังฝึกซ้อมพายเรือและกีฬาทางน้ำอย่างอื่นที่นั้นด้วย  ฉันคิดว่าพวกเขาน่าจะกำลังฝึกซ้อมเพื่อไปแข่งขันในการแข่งสักรายการ

ระดับน้ำในแม่น้ำจะลดต่ำลงเป็นอย่างมากในช่วงหน้าร้อนและจะขึ้นสูงมากในช่วงหน้าฝน บางครั้งถึงกับทำให้เกิดน้ำท่วมในช่วงเดือนสิงหาคมด้วย มีคาเฟ่ที่น่าสนใจหลายแห่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับแม่น้ำที่มีอาหารอร่อยและวิวสวยๆ ฉันแนะนำให้คุณแวะไปทั้งที่ คาเฟ่สุดกองดี และ กัสโต เอ็กซ์

ผู้ประกอบการเรือในแม่น้ำน่าน
ผู้ประกอบการเรือในแม่น้ำน่าน
คาเฟ่สุดชิคติดแม่น้ำน่าน
คาเฟ่สุดชิคติดแม่น้ำน่าน
แพนเค้กสดและสลัดญี่ปุ่นที่ร้านกาแฟจ. น่าน
แพนเค้กสดและสลัดญี่ปุ่นที่ร้านกาแฟจ. น่าน

ดอยเสมอดาว

ถ้าคุณอยากออกไปทำกินกรรมกลางแจ้งแล้วละก็ คุณสามารถวางแผนเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ดอยเสมอดาวได้ ใช้เวลาขับรถจากตัวเมืองน่านประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมือง

ดอยเสมอดาวนั้นตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน และเช่นเดียวกันกับอุทยานแห่งชาติอื่นๆ ที่นี่มีอุปกรณ์แคมปิ้ง, ห้องน้ำ, ห้องนอนรวม และร้านอาหารแบบท้องถิ่นให้บริการอยู่

คุณจำเป็นต้องมีรถเพื่อเดินทางไปเอง ไม่มีระบบขนส่งสาธารณะเข้าไปถึงที่นั้น แต่วิวพระอาทิตย์ขึ้นนั้นคุ้มค่าสำรับการเดินทาง คุณไม่ควรขับรถมาที่นี่ในช่วงกลางคืน หรือคุณสามารถซื้อทัวร์เพื่อมาที่นี่ได้เพื่อความสะดวกสะบาย

จองทัวร์: เที่ยวดอยเสมอดาวในหนึ่งวัน

ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติศรีน่าน: 20/10 บาทสำหรับคนไทย ผู้ใหญ่/เด็ก, 100/50 บาทสำหรับต่างชาติ ผู้ใหญ่/เด็ก

เตียงเมฆที่คุณสามารถมองเห็นได้จากดอยเสมอดาว
เตียงเมฆที่คุณสามารถมองเห็นได้จากดอยเสมอดาว
พระอาทิตย์ตกจากยอดดอยเสมอดาว
พระอาทิตย์ตกจากยอดดอยเสมอดาว

อุทยานแห่งชาติดอยภูนาง

ที่นี่เป็นอีกหนึ่งในหลายๆอุทยานแห่งชาติ ดอยภูนางนั้นตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของน่าน ใช้เวลาขับรถประมาณ 2 ชั่วโมง สภาพภูมิประเทศภายในอุทยานแห่งชาตินี้เต็มไปด้วยป่าทึบและพันธุ์ไม้นานาชนิด

อุทยานแห่งชาติแห่งนี้นั้นมีชื่อเสียงโดยเฉพาะวนอุทยานไดโนเสาร์แก่งหลวงที่มีการค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์ เหมาะอย่างยื่งสำหรับเด็กๆ มีน้ำตกอยู่สองแห่งให้คุณได้ใช้พักผ่อนหย่อนใจ แต่น้ำในน้ำตกจะเย็นเล็กน้อยถ้าคุณมาในช่วงหน้าหนาว

คุณสามารถรวมที่นี่ไว้ในแผนเที่ยวของคุณได้ถ้าคุณจะมาเที่ยวน่านหลายวัน มีบริเวณให้ตั้งแคมป์ได้สองแห่งที่มีห้องน้ำไว้บริการหากคุณต้องการค้างแรม

ล่องแพไม้ไผ่

นี่ไม่เหมือนกันการล่องแพไปตามแม่น้ำแบบปกติที่ทำให้อะดรีนาลีนของคุณพุ่งพล่าน การล่องแพไม้ไผ่นั้นเบากว่าพอสมควร ซึ่งดูเป็นการล่องแพแบบไทยๆมากกว่า แพไม้ไผ่นั้นทำขึ้นมาจากการนำกระบอกไม้ไผ่หลายๆกระบอกมาผูกติดกันด้วยเชือกปอและใช้ล่องไปตามแม่น้ำอย่างช้าๆ เหมาะที่สุดสำหรับใครก็ตาม (ฉัน) ที่ชอบอะไรเนิบๆ

การล่องแพไม้ไผ่และการขี่ช้าง (ซึ่งฉันไม่สนับสนุน) ถือเป็นสิ่งที่คุณต้องลองทำสำหรับการมาเที่ยวแต่เริ่มได้รับความนิยมน้อยลงในช่วงหลังๆมานี้ แต่คุณควรลองหากมีโอกาส บริการล่องเรือไม้ไผ่นั้นค่อนข้างหาได้ยากในพื้นที่ คุณสามารถลองเข้าไปดู ล่องแพบ้านหาดผาขน ที่อยู่ค่อนไปทางเหนือของน่านเล็กน้อยได้ หากแต่คุณต้องขับรถไปเอง

น่าเสียดายที่ช่วงที่เราไปนั้นมีน้ำขึ้นสูงมากจนทำให้บริการล่องแพต้องปิดชั่วคราว (เนื่องจากเป็นช่วงหน้าฝน) แต่ถ้าหากคุณได้ไปในช่วงเวลาที่เหมาะสม (หน้าหนาว) คุณสามารถไปลองเพื่อหาประสบการณ์ใหม่ๆได้

ไม้ไผ่ใช้ทำแพ
ไม้ไผ่ใช้ทำแพ
แม่น้ำน่านในช่วงฤดูฝน
แม่น้ำน่านในช่วงฤดูฝน

หอศิลป์ริมน่าน

หอศิลป์ริมน่านนั้นเป็นหอศิลป์ส่วนตัวของศิลปินชาวท้องถิ่น ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่านประมาณ 20 กิโลเมตรไปทางตอนเหนือของเมืองน่าน ที่หอศิลป์มีการจัดแสดงทั้งนิทรรศการแบบถาวรและแบบชั่วคราว

มีนิทรรศการหนึ่งที่โด่งดังที่จัดขึ้นเพื่อแสดงผลงานของศิลปินชื่อดังผู้วาดภาพฝาผนังภายในวัดภูมินทร์เท่านั้นอยู่ด้วย นิทรรศการชั่วคราวนั้นมีขึ้นเพื่อมุ่งหวังที่จะสนับสนุนศิลปินในท้องถิ่น นอกจากไปจากส่วนที่จัดแสดงผลงานทางศิลปะแล้ว ยังมีร้านขายของฝากของที่ระลึกและร้านอาหาร คุณสามารถแวะไปที่นี่ได้ระหว่างทางไปอุทยานแห่งชาติดอยภูคา

เวลาเปิด – ปิด ของหอศิลป์ริมน่าน: 9:00 น. – 17:00 น. วันพฤหัสบดี – วันอังคาร ปิดวันพุธ

ค่าเข้าหอศิลป์ริมน่าน: 20 บาทต่อคน

มาเที่ยวน่านพักที่ไหน

น่านนั้นไม่ใช่เมืองหลักสำหรับสถานที่ท่องเที่ยว ถึงแม้ว่าจะมีโรงแรมหลายแห่งในน่าน แต่ก็เป็นเรื่องยากที่จะหาโฮสเทลราคาถูกๆเหมือนที่คุณหาได้ทั่วไปในกรุงเทพ, เชียงใหม่ หรือภูเก็ตได้ เพราะฉะนั้นหากคุณเป็นนักเดินทางแบบแบ็คแพ็คเกอร์ คุณอาจต้องเตรียมพร้อมหน่อย มีโรงแรงระดับกลางๆ หรือ หรูหรา หลายแห่งเปิดให้บริการในพื้นที่

บริเวณที่เหมาะสำหรับการหาที่พักคือภายในรัศมี 2 กิโลเมตรจากใจกลางเมืองน่าน เนื่องจากใกล้กับสถานีขนส่งและคุณสามารถหารถเช่าได้ง่าย มีเซเว่นอีเลเว่น และสามารถเดินไปไนท์มาร์เก็ตได้ ที่ที่ดีสุดสำหรับการจองโรงแรมในน่านคือ agoda.com

ถ้าคุณวางแผนอยากได้ที่พักแบบบ้านไม้ในช่วงอื่นที่ไม่ใช่หน้าหนาว เช็คให้ดีว่าที่พักมีแอร์ด้วย (เนื่องจากปกติแล้วจะไม่มี)

นี่คือที่พักบางแห่งที่น่าสนใจ มีคะแนน, ที่ตั้งและสิ่งอำนวยความสะดวก ดีที่สุด

หอพัก: Yuuplearn HostelCuteInNan

โรงแรมราคาประหยัด: Nan GuesthousePhumin Palace HotelBaan Nan B&B Hotel

หรูหรา / บูติก: PX122 DBEST HOTELBaan Iyara Boutique Hotel

ชนบท: NantraKiriBan Suan Nai Fun Home

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการไปเที่ยวน่าน

หน้าหนาว (พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์): นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการไปเที่ยวจังหวัดน่านหรือจังหวัดอื่นๆในภาคเหนือ อุณหภูมิระหว่างวันจะอยู่ที่ประมาณ 20 องศาเซลเซียส บางคืนอุณหภูมิอาจลดต่ำถึง 12 องศาเซลเซียส โดยมากแล้วท้องฟ้าจะสดใส และไม่มีฝนตกมาขัดขวางการทำกิจกรรมในแต่ละวัน ความชื้นต่ำ คุณควรเตรียมเสื้อผ้าที่ค่อนข้างอุ่นไปด้วย

หน้าฝน (กรกฎาคม – ตุลาคม): ส่วนตัวแล้วฉันชอบไปเที่ยวหน้าฝนถึงแม้จะไม่ค่อยเป็นที่นิยม โดยเฉพาะอย่างยื่งที่น่าน ป่าเขตร้อนจะกลับมามีชีวิตชีวา มีสีเขียวสดใสอีกครั้งหลังจากได้น้ำฝน การไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวยิ่งทำให้สถานที่ต่างๆสวยงามมากขึ้น แต่คุณต้องทำใจว่าต้องเจอฝนตกแทบทุกวัน เพราะฉะนั้นนั่นอาจทำให้คุณเสียแผนได้

ถ้าคุณวางแผนที่จะขับรถออกไประยะทางไกลๆ ให้คุณพยายามหลีกเลี่ยงการขับรถบนถนนที่เปียก มีพื้นที่บางจุดที่เสี่ยงที่จะเกิดแผ่นดินถล่มได้ง่ายเช่นกัน ช่วงเดือนสิงหาคมนั้นเป็นเดือนที่ถือว่าอันตรายเนื่องจากเป็นช่วงที่มีน้ำล้นตลิ่งได้บ่อย

หน้าร้อน (มีนาคม – มิถุนายน): ฉันบอกได้อย่างเดียวว่าให้หลีกเลี่ยงการไปเที่ยวในหน้านี้ หน้าร้อนของน่านนั้นร้อนมากๆ อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่ป่าในบริเวณนี้จะเกิดไฟป่าได้บ่อยๆ แม้กระทั่งคนในท้องถิ่นยังไม่นิยมออกไปข้างนอก

ถ้าคุณมาเที่ยวที่น่านช่วงนี้ คุณควรใช้เวลาอยู่ในที่พักสบายๆในช่วงกลางวันและออกไปเที่ยวในช่วงเย็น ไม่ควรขับรถมอเตอร์ไซต์ไปไหนไกลๆเพราะจะทำให้คุณเป็นไข้แดดได้ง่าย

ภูเขาหมอกในช่วงฤดูฝนในจังหวัดน่าน
ภูเขาหมอกในช่วงฤดูฝนในจังหวัดน่าน

บทความที่เกี่ยวข้อง


Spread the love
Snigdha Jaiswal
snigdha220491@gmail.com
No Comments

Post A Comment